(เพิ่มเติม) TOP คาดปี 53 GIM ไม่รวมสต็อก สูงกว่า 5 เหรียญ/บาร์เรล , รายได้โต 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 23, 2010 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยออยล์(TOP)คาดว่า ในปี 53 บริษัทจะมีค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย(GIM) มากกว่า 5 เหรียญ/บาร์เรล สูงกว่าปีก่อนที่ GIM ไม่รวมสต๊อกอยู่ที่ 4.80 เหรียญ/บาร์เรล แต่หากรวมสต๊อกจะอยู่ที่ 6.10 เหรียญ/บาร์เรล แต่ปีนี้คาดว่ากำไรจากสต็อกน้ำมันคงจะมีไม่มากเหมือนปีที่แล้วที่มีกำไรสูงกว่า 1 พันล้านบาท

นายสุรงค์ กล่าวถึงสาเหตุที่ GIM ปรับตัวดีขึ้น เนื่องมาจากราคาน้ำมันปรับขึ้นมาไม่เกิน 85 เหรียญ/บาร์เรล จากปีที่แล้วราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 62 เหรียญ/บาร์เรล และในปีที่แล้วโรงกลั่นปิดลงไป 14 แห่งทำให้ซัพพลายลดลง ขณะที่ดีมานด์เริ่มกลับมา

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุกิจโซลเวนท์ เอทานอล และการเข้าซื้อกิจการ การลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีหลายโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการศึกษา นอกจากนี้ บริษัทกำลังดูจุดแข็งเพื่อหาจุดขายของตัวเองก่อนจะกำหนดแนวทางการทำธุรกิจใหม่ที่ไม่ซ้ำซ้อนกับบริษัทในกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ซึ่งขณะนี้โครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทถือว่ามีจุดเด่น เพราะมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม PTT

"แต่ปีนี้คงไม่มีโครงการใหญ่ๆ จะมีเพียงโครงการเล็กน้อย ในเดือนหน้าอาจจะเห็นข่าวดี...ดีล M&A การเข้าซื้อกิจการโรงกลั่น เราจะไปกับทางกลุ่ม ปตท. คงไม่ไปเดี่ยวๆ เราก็ดูจุดแข็งของเรา ซึ่งธุรกิจไฟฟ้าเราเป็นลีดของกลุ่ม เราอาจ spin off มาทำ แต่ต้องรอให้ ปตท.ตัดสินใจด้วย เพราะการลงทุนในกลุ่ม ปตท.จะได้ไม่ซ้ำซ้อนกัน"นายสุรงค์ กล่าว

ด้านนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการด้านการเงิน TOP คาดว่า ในปีนี้รายได้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% และ EBITDA ก็จะดีตามไปได้วย จากปีที่แล้วที่มีรายได้ 2.84 แสนล้านบาท และ EBITDA ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท บริษัทตั้งงบลงทุนในปี 53-54 ไว้ราว 160 ล้านเหรียญ แบ่งเป็นการลงทุนในปีนี้ 106 ล้านเหรียญ และอีก 54 ล้านเหรียญในปี 54 ในส่วนกำลังการผลิต ปีนี้จะมีกำลังการผลิตใกล้เคียงปีก่อนที่ 2.74 แสนบาร์เรล/วัน โดยแหล่งเงินลงทุนมาจากเงินหมุนเวียนบริษัท ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสด 8 พันล้านบาท มีวงเงินสินเชื่อ 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะหมดอายุในปีนี้ และคาดว่าจะมีการขอต่ออายุวงเงิน

ขณะเดียวกันปีนี้ยังไม่มีแผนออกหุ้น แต่หากจะออกต้องพิจารณาภาวะตลาดและวงเงินไม่มาก และยังไม่มีแผนชำระคืนหนี้ในปีนี้

สำหรับธุรกิจโซเว้นท์ได้ขยายธุรกิจไปที่ประเทศเวียดนามตอนใต้ และยังมีแผนรุกตลาดต่างประเทศต่อไป ได้แก่ เวียดนามตอนเหนือ จีน ที่เมืองกวางสี กวางเจา ส่วนธุรกิจเอทานอล มีแผนเข้าซื้อโรงงานที่มีการผลิตแล้วเพื่อต่อยอดธุรกิจ

นายพงษ์พันธุ์ อมรวิวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการพาณิชย์องค์กร TOP กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.53 ราคาน้ำมันมีสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งจะมีผลทำให้ค่าการกลั่นดีขึ้น ประกอบกับสเปรดของอะโรเมติกส์ เช่น พาราไซลีน เบนซีน สูงขึ้น ทำให้แนวโน้มมาร์จิ้นเฉลี่ยโดยรวมของบริษัทดีขึ้น เนื่องจากซัพพลายมีน้อยลง

อย่างไรก็ตามมองว่าไตรมาส 1/53 ราคาน้ำมันตลาดโลกจะอยู่ที่ 70/80 ดอลลาร์/บาร์เรล รวมทั้งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเซียสูงขึ้น โดยเฉพาะจีน อินเดีย จะทำให้มีความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น จึงคาดว่าช่วงไตรมาส 1-2/53 ค่าการกลั่น (GRM) จะดีกว่าไตรมาส 4/52 และไตรมาส 3-4/53 จะปรับสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยแนวโน้มราคาน้ำมันช่วงครึ่งปีหลัง จะสูงขึ้น แต่คาดว่าไม่เกิน 85 ดอลลาร์/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ