นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการ บมจ.การบินไทย(THAI) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้อนุมัติจัดซื้อเครื่องบิน A330-300 มูลค่า 6,200 ล้านบาท โดยให้การบินไทยบรรจุเงื่อนไขว่าหากเกิดข้อขัดแย้งระหว่างผู้ซื้อหรือผู้ขายก็จะต้องผ่านอนุญาโตตุลาการ แต่หากไม่บรรจุเงื่อนไขก็จะต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอเรื่องขอให้ ครม.อนุมัติให้การบินไทยใช้ข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทสำหรับการจัดหาเงินกู้เพื่อชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 6 ลำ ให้ทันภายในกำหนดเวลาตามสัญญาจัดหาเงินกู้ระยะยาวของเครื่องบินลำแรก ซึ่งกำหนดเงื่อนเวลาให้ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือนนับจากวันเบิกรับเงินกู้(Refinancing Date) คือ ภายในวันที่ 28 ก.พ.53
"หากบริษัทการบินไทยไม่สามารถใช้ข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทในสัญญาการจัดหาเงินกู้ระยะยาวได้จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำธุรกรรมจัดหาเงินกู้ในครั้งนี้และครั้งถัดไป" นายศุภชัย กล่าว
เนื่องจาก Export Credit Agencies(ECAs) ที่มี Export Credit Guarantee Department(ECGD) ในฐานะ Lead Guarantor อาจจะพิจารณาทบทวนยกเลิกการค้ำประกันเงินกู้สำหรับเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 6 ลำของการบินไทย และทำให้การบินไทยประสบปัญหาเรื่องการจัดหาเงินกู้ระยะยาวเพื่อชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวนที่เหลือได้
ทั้งนี้การบินไทยได้ทำสัญญาจัดหาเงินกู้ระยะยาวสำหรับเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 4 ลำเรียบร้อยแล้ว แต่มีเงื่อนไขในสัญญาจัดหาเงินกู้ว่าการบินไทยจะต้องดำเนินการขอผ่อนผัน ครม.เพื่อให้ใช้ข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาทในสัญญาจัดหาเงินกู้ดังกล่าว และเครื่องบินลำที่ 2-4 จะครบกำหนดในวันที่ 22 เม.ย.53