นักวิเคราะห์ แนะหุ้นพลังงาน โดยเฉพาะถ่านหินเป็นหุ้นเด่นปีนี้ จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น รองลงมาเป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เติบโตตามจีดีพี รวมทั้ง แนะเก็บหุ้นเกษตร-ส่งออกด้วย ส่วนกลุ่มสื่อสารแนะเล่น ADVANC-DTAC โดยเฉพาะ ADVANC รอรับปันผลพิเศษ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ 26 ก.พ.นี้จะออกมาอย่างไร คาดว่าตลาดหุ้นคงทรงตัว เพราะรับรู้ไปแล้ว
นายสุชีล นารูลา กรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวแนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยให้น้ำหนักถ่านหิน ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันมองเป็นกลาง เพราะคาดว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้าดีมานด์ถ่านหินจะเกิดขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะดีมานด์จากจีนเป็นตัวหนุนราคาและความต้องการของตลาดรวมให้สูงไปด้วย
ขณะเดียวกัน ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารจากผลการเติบโตของเศรษฐกิจจะช่วยให้สินเชื่อขยายตัวได้บ้าง แต่อัตราการเติบโตของกำไรกลุ่มแบงก์จะดีมาก เพราะแบงก์จะขยายฐานรายได้กำไรจากบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือข่าย รวมทั้ง หลายแบงก์มีรูปแบบเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมดีขึ้น
ส่วนกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีการส่งออกมากขึ้นก็น่าสนใจ และกลุ่มสื่อสารก็มีอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลสูง 7-8% เช่น DTAC และ ADVANC ซึ่งเป็นหุ้นปันผลสูง
"การเมืองไม่ว่าผลการตัดสินคดีในวันที่ 26 ก.พ.จะออกมาอย่างไรก็ตาม หากไม่มีนองเลือดหุ้นทรงตัวเพราะตลาดรับรู้ไปบางส่วนแล้ว"นายสุชีล กล่าวในงานเสวนาพิเศษ "กรองอุตสาหกรรมเด่น เฟ้นหุ้นดี รับปีขาล"
นายสุชีล กล่าวว่า ในปี 53 เศรษฐกิจดีแต่หุ้นแกว่งเพราะปี 52 ราคาถูกมากแล้ว ปีนี้ปัจจัยที่มองคือ ปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปยังไม่จบ โดยเฉพาะกรีซ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจแค่ 3-4% ของจีดีพียุโรป แต่สิ่งที่ตลาดห่วงคือประเทศอิตาลี ซึ่งมีหนี้สาธารณะค่อนข้างสูงและมีขนาดเศรษฐกิจ 17% ของจีดีพียุโรป เป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลช่วงนี้และกดดันเงินยูโรอ่อนค่า ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทำให้ตลาดเอเชียลงมาระดับหนึ่ง
ด้าน น.ส.วราภรณ์ วิบูลย์คณารักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีซีมิโก้ แนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน เพราะมองว่า ค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 88 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ 80 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งไตรมาส 1-2 ราคาน้ำมันเริ่มขยับขึ้นกลุ่มโรงกลั่นน่าจะปรับตัวดีกว่าตลาด โดยค่าการกลั่นตอนนี้อยู่ 5 เหรียญฯ แต่จะสูงสุดปลายไตรมาส 1 หรือต้นไตรมาส 2
และปีนี้สเปรดของปิโตรเคมีค่อนข้างดีในไตรมาสแรก ทำให้มองแนวโน้มผลประกอบการโรงกลั่นน่าจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52 แต่ก็ยังกังวลสเปรดปิโตรเคมีอาจจะยืนไม่ได้ไกล เพราะผลผลิตจากโรงงานใหม่จะออกมาในตลาดค่อนข้างมาก สำหรับกลุ่มสื่อสาร ขณะนี้บริษัทต่างๆพยายามสร้างกระแสเงินสด ถ้าไม่ลงทุนระบบ 3จีก็จะคืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้นอย่าง ADVANC ถ้าปีหน้าอยากจะเห็นการจ่ายปันผลพิเศษ(สำหรับผลประกอบการงวดปี 53) อีก 4.75 บาทต่อหุ้น ก็มีกำไรสะสมพอที่จะจ่ายผู้ถือหุ้นได้
"การจ่ายปันผลพิเศษอาจจะได้เห็นแค่ 2-3 ปี ไม่ใช่ระยะยาว ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะสามารถจ่ายปันผลพิเศษได้มากกว่ากำไรจากการดำเนินการปกติที่จ่ายอยู่ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น ซึ่งถ้า ณ ราคาปัจจุบันก็คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6-7% แล้ว ก็ยังน่าสนใจ" น.ส.วราภรณ์ กล่าว