ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.พ. และเยอรมนีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่อ่อนแอเช่นกัน โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานดิ่งลงหนักสุด หลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะในตลาดโลกร่วงลง
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 36.98 จุด ปิดตลาดที่ 5315.09 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนผันผวนอย่างหนัก หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.ดิ่งลงสู่ระดับ 46 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 56.5 จุด และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 55 จุด บ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีความวิตกกังวลเรื่องตัวเลขจ้างงานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสถาบัน Ifo รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.พ.ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 95.2 จุด จากระดับ 95.8 จุดในเดือนม.ค.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดลบ 2.8% หุ้นเอ็กซ์สตราตาปิดร่วง 2.9% หุ้นเฟรสนิลโล 3% หุ้นลอนมินปิดลบ 3.2% และหุ้นอันโตฟากัสตา ร่วงลง 3.8%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง รวมถึงหุ้นบีจี กรุ๊ป หุ้นบีพี หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ หุ้นเคร์น เอ็นเนอร์จี และหุ้นทุลโลว์ ออยล์
นักลงทุนจับตาดูเบอร์นันเก้ที่เตรียมแถลงนโยบายเศรษฐกิจและการเงินต่อสภาคองเกรสในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ รวมทั้งชี้แจงเหตุผลของการเตรียมถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% เป็น 0.75% เมื่อเช้าตรู่วันที่ 19 ก.พ.ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากตลาดการเงินและภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น