นายศิริพงษ์ อุนทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี(AIT) เปิดเผยว่า ในปี 53 บริษัทยังมุ่งหน้าประมูลงานของภาครั{และรัฐวิสาหกิจเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าจะมีงานในโครงการใหญ่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้มองโอกาสได้งานใหม่เข้ามามากเช่นเดียวกับปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสขยายงานในลักษณะ specialize ในกลุ่มธุรกิจเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นที่ขณะนี้มีการขยายตัวค่อนข้างมาก ปัจจุบันเคเบิ้ลท้องถิ่นมีประมาณ 300 โอเปอเรเตอร์ และมีการร่วมตัวกันเป็นสมาคม จัดตั้งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง มีลูกค้ารวมกันมากกว่า 3 ล้านราย และยังมีการรวมตัวกันทำรายการต่างๆ เป็นระบบ E-Chanel ต่างจากอดีตที่ต่างคนต่างทำรายการของตัวเอง ซึ่งบริษัทได้มองช่องทางการพัฒนาตัวสินค้าออกมาเพื่อรองรับดาต้าคอนเท้นท์ และงานด้านอื่น ๆ ของตลาดนี้
ทั้งนี้ ในเฟสแรกบริษัทได้ขายผบิตภัณฑ์ให้กับเคเบิ้ลไทย โฮลดิ้งไปแล้ว 16 channal ซึ่งจะทำให้สามารถขยายเครือข่ายเป็น 80-100 channal และหากอนาคตมีการขยายธุรกิจในรูปแบบการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม ก็จะยิ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการรับงานเพิ่มขึ้นอีก
"เคเบิ้ลท้องถิ่นก็เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ เราเป็นพาร์ทเนอร์ มีโปรดักส์รองรับ เฟสแรกก็ขายให้เคเบิ้ลไทยโฮลดิ้งไปแล้ว หากเขาขยายช่องทางได้มากขึ้น เราก็มีรายได้เพิ่มขึ้น และอนาคตหากโอเปเรอเตอร์ 300 ราย และลูกค้าอีก 3 ล้านคนไปใช้เป็นจานดาวเทียม ก็เป็นโอกาสเพิ่มขึ้นอีก แต่ตอนนี้เราก็เห็นหลายรายที่เริ่มลงทุนทำเคเบิ้ลทีวี ก็เป็นโครงการที่น่าสนใจ ก็จะขยายต่อไปเรื่อยๆ"นายศิริพงษ์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
สำหรับงานวางระบบเครือข่ายด้านไอที ยังคงมีงานของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจในโครงการใหญ่ๆ อีกหลายโครงการที่บริษัทพร้อมที่จะเข้าไปประมูล โดยเฉพาะเครือข่ายระบบ 3 จีระยะที่ 2 ซึ่ง บมจ.ทีโอที ได้เปิดให้บริการในเฟสแรกไปแล้ว และหากมีแผนการขยายการลงทุนในระยะต่อไป ก็เป็นโอกาสที่บริษัทจะมีส่วนร่วมในการเข้าประมูลงาน หลังจากได้มีส่วนร่วมในการวางระบบ 3 จีในเฟสแรกไปแล้ว
นอกจากนั้น ยังมองโอกาสในการวางโครงข่าย 3จีของโอเปอเรเตอร์รายอื่น ๆ ที่ยังรอคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)เปิดประมูลใบอนุญาต แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่หาก กทช.อนุมัติแล้วก็ขึ้นอยู่กับการลงทุนของโอเปอเรเตอร์ ซึ่งบริษัทก็พร้อมเข้าประมูลรับงานเช่นเดียวกับผู้วางระบบรายอื่นๆ
นายศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า ในปี 53 บริษัทวางเป้าหมายรายได้ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีรายได้ประมาณ 3,300 ล้านบาท เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยจะเป็นรายได้จากการเข้าประมูลงานในโครงการต่างๆ รวมถึงรายได้จากตลาดเคเบิ้ลทีวี ขณะที่บริษัทยังมี backlog ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปีนี้น่าจะเติบโต 8%
"หากรักษาระดับการทำกำไรของเราโตที่ 8% ก็น่าจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้ เหมือนในปี 52 ที่ผ่านมา ก็หวังว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น" นายศิริพงษ์ กล่าว