หุ้น SCC ราคาวิ่งขึ้น 2.73% มาอยู่ที่ 226 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท มูลค่าซื้อขาย 183.40 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.09 น. โดยเปิดตลาดที่ 225 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 227 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 225 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย(SCC) จากที่ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ 7 บริษัท ในพื้นที่มาบตาพุด ที่ถูกระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราว สามารถเดินหน้าก่อสร้างโครงการต่อไปได้ ในที่นี้เป็นบริษัทในเครือ SCC จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล 2. บริษัท ไทยเอ็มเอ็มเอ 3. บริษัท สยามโพลีเอททีลีน 4. บริษัทสยามเลเทกซ์สังเคราะห์ และ 5. บริษัทไทยโพลิเอททีลีน
แต่ละโครงการจะต้องติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ ทดสอบระบบที่เกี่ยวข้อง และทดลองเดินเครื่องจักร ให้เป็นไปตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมทั้งกฏเกณฑ์ของกฏหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้ จะยังไม่สามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้จนกว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 จนครบ
ความชัดเจนที่มีมากขึ้นเกี่ยวกับโครงการลงทุนของ SCC ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการเข้าสู่ช่วงวัฏจักรขาลงของธุรกิจปิโตรเคมีลงได้ และทำให้ SCC มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มธุรกิจหลักอื่น ๆ ของSCC ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจปูนซีเมนต์ ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจกระดาษ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2553 ไว้เท่าเดิมที่ 24,388 ล้านบาท จนกว่าจะมีความคืบหน้าของโครงการต่างๆเหล่านี้มากขึ้น โดยกำหนด Fair Value ที่ระดับ PER 12 เท่า จะให้ราคาหุ้นที่เหมาะสมที่ 244 บาท มี Upside จากราคาปัจจุบัน 11% รวมกับผลตอบแทนจากเงินปันผลอีก 4.5%