SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 715.05 จุด ลดลง 0.13 จุด(-0.02%)มูลค่าการซื้อขาย 8,846.39 ล้านบาท ตลาดหุ้นเช้านี้ยังผันผวนต่อเนื่อง แม้ได้แรงหนุนจากกรณีศาลปกครองผ่อนผัน 7 โครงการมาบตาพุดก่อสร้างต่อได้ แต่ยังมีปัจจัยลบจากต่างประเทศและการเมืองยังกดดันอยู่ นักลงทุนหาจังหวะขายทำกำไรหากราคาหุ้นปรับขึ้นมา ทำให้ดัชนีหุ้นยืนบวกได้ยาก กรอบการลงทุนบ่ายนี้ให้แนวรับที่ 708 และแนวต้านที่ 719 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 715.05 จุด ลดลง 0.13 จุด(-0.02%)มูลค่าการซื้อขาย 8,846.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนียังคงผันผวนปิดตลาดช่วงเช้าในแดนลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 721.97 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 712.88 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ค่อ่นข้างผันผวน แต่อยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และช่วงท้ายตลาดปรับตัวลดลงมาจนปิดตลาดดัชนีติดลบ ตลาดภูมิภาคเริ่มอ่อนตัวลงมาเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สลงมากว่า 60 จุดแล้ว และตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าเปิดตลาดมายังบวกอยู่ 6 จุด แต่กลับมาปิดตลาดลบ คาดว่าเป็น Sentiment จากปัจจัยข้างนอกเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการที่ศาลปกครองผ่อนผันให้ 7 โครงการมาบตาพุดเดินหน้าก่อสร้างมาช่วยได้บ้าง แต่ปัจจัยจากต่างประเทศยังกดดัน โดยเฉพาะเงินดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่ปัจจัยการเมืองยังรอความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ ทำให้นักลงทุนจึงยังไม่มั่นใจเท่าที่ควร ดังนั้น ระยะ 1-2 วันนี้เมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นไปสักก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมา ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นยังผันผวนต่อเนื่องในช่วงบ่ายวันนี้ โดยให้แนวรับที่ 708 แนวต้านที่ 719 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,361.72 ล้านบาท ปิดที่ 231.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 410.77 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 405.28 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 395.79 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 346.84 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง