(เพิ่มเติม) PTTCH คาดปี 53 กำไรดีกว่าปีก่อน ตามสเปรดสูงขึ้น-รายได้แตะ 1 แสนลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 25, 2010 18:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระศักดิ์ โฆษิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.เคมีคอล(PTTCH)กล่าวว่า บริษัทคาดว่ากำไรและ EBIDA ในปี53 สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 6.8 พันล้านบาท และมี EBITDA ที่ 1.55 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท จากปี 52 ที่ 8.39 หมื่นล้าน ตามปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)จะดีขึ้นกว่าปีก่อนจากแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น

"รายได้ของเราจะมีอัพไซต์หรือไม่ขึ้นอยู่กับกรณีมาบตาพุดมากๆ โดยมีสัดส่วนถึง 20-30 % โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักๆมาจากกำลังการโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านตัน กว่า 2 ล้านตัน ทำให้ EBITDA และกำไรดึขึ้น"นายวีระศักดิ์ กล่าว

แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ในปีนี้ คาดว่า ส่วนต่างราคาขายกับวัตถุดิบโดยรวมอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนที่ระดับ 580-590 เหรียญสหรัฐ/ตัน โดยเฉพาะเอทิลีนกับนาฟทาส่วนต่างอยู่ที่ 590 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ขณะที่ราคาของเม็ดพลาสติก HDPE และเอทิลีนปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับราคาเดียวกันที่ 1,300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ไม่มีส่วนต่าง แต่คาดว่าจะเริ่มมีสเปรดที่ดีขึ้นไตรมาส 2/53 เป็นต้นไป

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามาจากโครงการผลิตเม็ดพลาสติก LLDPE 4 แสนตัน/ปี ที่เริ่มผลิตเมื่อต้นปี และโครงการผลิตเม็ดพลาสติก LDPE กำลังการผลิต 3 แสนตัน/ปีจะเริ่มผลิตได้กลางปีนี้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตโดยรวมในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 ล้านตัน จากปีก่อนที่มีกำลังการผลิต 2.8 ล้านตัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะปิดซ่อมบำรุงโรงโอเลฟินส์ I-1 จำนวน 33 วัน ช่วง ก.พ.-มี.ค.53 และโรงโอเลฟินส์ I4-1 ปิด 35 วันในไตรมาส 2/53 ส่วนครึ่งปีหลังบริษัทไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุง

"เนื่องจากโรงแยกก๊าซ 6 ยังขึ้นไม่ได้ทำให้กำลังการผลิตยังเดินได้ไม่เต็มที่ หายไป 7-8 แสนตัน ที่หายไปเพราะโอเลฟินส์ผูกติดกับโรงแยก 6 และโครงการเม็ดพลาสติกหลายโครงการยังถูกระงับ ปัญหาเรื่องนี้เริ่มเห็นแนวทางการแก้ไข และอยากได้ข้อสรุปแก้ไขโดยเร็ว เพราะมันจะมีผลกระทบโดยรวม แต่เรื่องนี้จะต้องไปร่วมมือกับกลุ่ม ปตท."นายวีระศักดิ์ กล่าว

โครงการของ PTTCH ในมาบตาพุดยังถูกศาลสั่งระงับ 7 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายกำลังการผลิต HDPE จำนวน 5 หมื่นตัน/ปี ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตจะเพิ่มเป็น 3 แสนตัน, โครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก HDPE โครงการใหม่ อีก 2.5 แสนตัน/ปี ซึ่งทั้ง 2 โครงการก่อสร้างเสร็จแล้วอยู่ระหว่างทดลองเครื่อง, โครงการผลิตเอทานอลเอมีน กำลังผลิต 5 หมื่นตัน/ปี, โครงการขยายกำลังการผลิต MEG 9.5 หมื่นตัน/ปี และ โรงแครกเกอร์ใหม่ I4-2 มีกำลังการผลิตเอทีลีน 1 แสนตัน/ปี และโพรพิลีน 5 หมื่นตัน/ปี เป็นต้น

ด้านนายปฏิภาณ สุคนธมาน กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทมีงบลงทุนรวม 8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนปกติ 2 พันล้านบาท และอีก 6 พันล้านบาทเป็นงบสำหรับงานก่อสร้างที่ยังค้างอยู่ นอกจากนี้ในปี 53 บริษัทมีแผนรีไฟแนนซ์เงินกู้ 5-6 พันล้านบาท จากทั้งหมดที่มีภาระหนี้รวม 4.5 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนนี้เป็นหุ้นกู้ 2 หมื่นล้านบาท โดยเฉลี่ยอายุหนี้สิน 5.1 ปื ต้นทุนเฉลี่ยกว่า 4% ต่อปี

"ปีนี้เราคงไม่มีแผนระดมทุนขนาดใหญ่แต่เรากำลังดูว่ารีไฟแนนซ์ 5-6 พันล้านบาท เพราะหลังจากปรับอายุหนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 4% เพื่อให้ภาระหนี้สินแต่ละปีไม่ต่างกันมากนัก สรุปรูปแบบภายในครึ่งปีแรกของปีนี้"นายปฎิภาณ กล่าว

แท็ก เคมี   ปตท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ