หุ้น BANPU ราคาวิ่งขึ้น 2.99% มาอยู่ที่ 552 บาท เพิ่มขึ้น 16 บาท มูลค่าซื้อขาย 443.89 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.00 น. โดยเปิดตลาดที่ 540 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 552 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 538 บาท
สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ แนะ“ซื้อ"หุ้น บมจ.บ้านปู(BANPU)ด้วยราคาเป้าหมาย 740 บาท/หุ้น อิงจากแนวโน้มราคาถ่านหินที่ดีและปริมาณขายที่สูงขึ้นในอินโดนีเซียและจีน โดยมองว่าผลประกอบการของบริษัทยังมีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2554F เมื่อราคาถ่านหินคาดว่าจะแตะระดับสูงสุด
BANPU รายงานอัตราการเติบโตกำไรสุทธิในปี 2552 แข็งแกร่ง 54.2% YoY มาอยู่ที่ 1.42 หมื่นล้านบาท จากปริมาณขายที่สูงขึ้น (+14% YoY) และกำไรจากการทำ swap ถ่านหิน 2.9 พันล้านบาท อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทยังดีขึ้นจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลดลง ส่วนแบ่งกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนดีขึ้นอย่างมาก (+122% YoY) จากปริมาณขายที่สูงขึ้นและราคาขายที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"ซื้อ"หุ้น BANPU มูลค่าพื้นฐาน 582 บาท (Sum-of-the-parts) ประเมินว่าราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยงจากการหดตัวของผลประกอบการ 4Q52 แล้ว ขณะที่ราคาหุ้นเริ่มมีส่วนต่างราคาที่น่าสนใจอีกครั้งที่ระดับ 8.6% อีกทั้งเงินปันผลในระดับ 3% ต่อปี ขณะที่ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง โดยคาดกำไรสุทธิปี 53 ลดลง 3.7% YoY ก่อนที่จะเติบโตอีกครั้งในปี 54 ในอัตรา 16% YoY
ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการ 2H52 ในอัตรา 8 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 1.5% (1H52 จ่ายไปแล้ว 8 บาท/หุ้น รวมทั้งปี 52 จ่ายในอัตรา 16 บาท/หุ้น) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 เม.ย. นี้
กำไรสุทธิปี 52 อยู่ที 14,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% YoY โดยมีปริมาณจำหน่ายถ่านหินเท่ากับ 21.1 ล้านตัน และราคาขายเฉลี่ยที่ US$71.7/ตัน ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 53 เท่ากับ 13,697 ล้านบาท ลดลง 4% YoY จากแรงกดดันของราคาขายถ่านหินที่คาดว่าจะลดลงเหลือ US$68/ตัน (-5% YoY) จากสัดส่วนการจำหน่ายถ่านหินที่มีคุณภาพต่ำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ต้นทุนน้ำมันดีเซลที่คิดเป็น 25% ของต้นทุนการผลิตรวม จะเพิ่มขึ้น 10% YoY ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจากปีก่อน ขณะที่ประมาณการยอดจำหน่ายถ่านหินคงไว้ที่ 23 ล้านตัน (+9%YoY) จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของเหมือง Indominco ฝั่งตะวันออก และการกลับมาผลิตของเหมือง Embalut (Kitadin)