นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บมจ. ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ ม.ค.- 25 ก.พ.53 ยอดขายของบริษัทมีจำนวน 1,850 ล้านบาท ถือว่าเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึงประมาณ 10-20% โดยเป้าหมายอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท จึงคาดว่าในไตรมาส 1/53 ยอดขายน่าจะเกินเป้าด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหลังเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรู "ริเวอร์ รีสอร์ท" ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในวันที่ 6-7 มี.ค.53 มูลค่าโครงการ 3,800 ล้านบาท น่าจะทำยอดขาย 1,500 ล้านบาท
และหลังจากที่รัฐบาลไม่มีการต่อมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 มี.ค.53 คาดว่าจะทำให้มีลูกค้าเร่งโอนบ้านให้แล้วเสร็จทันใช้ในมาตรการ โดยเฉพาะลูกค้าที่มีกำหนดโอนช่วง เม.ย.อาจจะเร่งเร็วมาขึ้นเป็นภายในเดือน มี.ค.ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 1/53
อนึ่ง ทั้งปี 53 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 11,000 ล้านบาท โดยขณะนี้มียอดขายรอโอน(backlog)ราว 16,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ด้วย ส่วนในด้านยอดขายตั้งเป้าไว้ที่ 15,000 ล้านบาท
นายไตรเตชะ กล่าวอีกว่า ช่วงกลางเดือน มี.ค.53 บริษัทจะจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัท โดยมีวาระพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินปันผลช่วงครึ่งปีหลังของปี 53 โดยคาดว่าจะจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่จ่ายไปแล้ว 0.25 บาท/หุ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับขึ้นราคาบ้านในโครงการไปแล้วบางส่วน 1-2% รองรับการยกเลิกมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ หลังจากนั้นจะทยอยพิจารณาปรับขึ้นอีกเป็นระยะๆ โดยมองว่าไตรมาส 2/53 หลังไม่มีมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่าสถานการณ์โดยรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า แม้รัฐบาลยกเลิกมาตรการภาษีจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการสังหารายใหญ่ แม้จะกระทบต่อผลกำไรราว 4% แต่ก็คิดเป็นวงเงินไม่มาก ขณะที่จะได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการรายเล็กอาจได้รับผลกระทบมากกว่า ประกอบกับในปี 53 มองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะเติบโตได้ 10% ซึ่งเป็นช่องให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้แย่งส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้น