(เพิ่มเติม) THAI คาดปี 53 กำไรสูงกว่า 7.34 พันลบ.ในปี 52 /สรุปแผนเพิ่มทุน Q2-Q3

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 26, 2010 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย เปิดเผยว่า ในปี 53 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสูงขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 7,344 ล้านบาท หรือคาดว่ากำไรสุทธิในปี 53 จะเพิ่มขึ้นจากปี 52 อย่างน้อยประมาณ 10-15%โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.53) มี อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เกินกว่า 80% เป็นระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยทั้งปีบริษัทตั้งเป้ามี Cabin Factor 75% สูงกว่าปี 52 ที่เฉลี่ย 72%

เนื่องจากคาดการณ์ว่าในปี 53 จำนวนผู้โดยสารฟื้นตัว ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้จะเพิ่มสูงกว่าปี่กอนที่มีจำนวน 14.3 ล้านคน รวมทั้งบริษัทมีนโยบายปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และปรับเส้นทางการบิน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการบริหารต่อเนื่อง

"ปีที่แล้วแม้รายได้จะลดลง 19% แต่เราสามารถลด cost ได้ถึง 31% และมีการปรับปรุงฝูงบิน และในปีนี้ เราต้องกำไรมากกว่า 7 พันล้านบาท ดูจากตัวเลข 2 เดือนที่ผ่านมา cabin factor ทำได้เกินกว่า 80% สูงกว่าเท่าที่เคยทำมาที่บริษัทเปิดมา 50 ปี" นายอำพน กล่าว

โดยในเดือน ม.ค.53 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด ทำให้ปริมาณผู้โดยสารเดินทางในช่วงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ Cabin Factor ขึ้นมาเป็น 82% มากกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.8%

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมตินำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 53 ครั้งที่ 1 พิจารณาจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 52 (1 ม.ค.-31 ธ.ค.52) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 พ.ค.53

โดยในปี 52 บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสือมราคา (EBITDA) มีจำนวน 30,297 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2.8 หมื่นล้านบาท ประกอบกับมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายลดลง 31% เหลือ 1.55 แสนล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากต้นทุนน้ำมันลดลง โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยต่ำกว่าปีก่อน

*แผนเพิ่มทุนสรุป Q2-Q3

นายอำพน กล่าวอีกว่า ในปี 53 บริษัทยังคงมีแผนยุทธศาสตร์เพิ่ม ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเงิน โดยการเพิ่มทุนที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับกระทรวงการคลัง คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินไตรมาส 2-3/53 เพื่อใช้ในการปรับฝูงบิน และปรับปรุงการให้บริการ โดยจะลดอายุเครื่องบินอยู่ที่ 11 ปี และเพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้านต่างๆ ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)ของบริษัทลดลงเหลือ 2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 4 เท่า

"ตอนนี้เจรจาเรื่องเพิ่มทุนกับกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ...เรายังมีแผนยุทธศาสตร์ต่อ โดยการเพิ่มทุนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเรา" นายอำพน กล่าว

ทั้งนี้ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะมีการนำเสนอเรื่องการเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณา โดยประธานกรรมการบริษท กล่าวว่า อาจจะมีแนวทางการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนอื่น นอกเหนือจากเสนอขายต่อผู้ถือห้นเดิม

นอกจากนี้คณะกรรมการ ได้อนุมัติการเช่าเครื่องบินระยะพิสัยไกล จำนวน 3 ลำ อายุเช่าไม่เกิน 3 ปี และต้องรับมอบเครื่องบินภายใน 6 เดือนนี้ เพื่อแก้ปัญหาการรับมอบ A330 -300 ล่าช้า และเครื่องบินโบอิ้ง B747-400 ที่ปลดระวางไปบางส่วน ทั้งนี้เพื่อนำไปรองรับเส้นทางยุโรป และ ญี่ปุ่น

อนึ่ง การบินไทยมีแผนรับมอบเครื่องบิน A330-300 จำนวน 8 ลำ ในช่วงปี 52-53 แต่ในปีที่แล้วรับมอบเพียง 3 ลำ ยังเหลืออีก 5 ลำที่ยังไม่ได้รับมอบ จากปัญหาการติดตั้งที่นั้งล่าช้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ