ทริส เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิต SST เป็น“Developing"จาก“Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 26, 2010 21:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. ทรัพย์ศรีไทย (SST) เป็น “Developing" ซึ่งหมายถึงอยู่ระหว่างการพิจารณา จากเดิม “Stable" หรือ “คงที่" แต่ยังคงยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “BBB“

ทริสเรทติ้ง กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่บริษัททรัพย์ศรีไทยประกาศว่าจะมีแผนลงทุนใน บริษัท อุตสาหกรรมวิวัฒน์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืช “ทิพ" โดยบริษัทได้ลงนามในฐานะ “ผู้ร่วมทุน" ในสัดส่วน 99.7% ในสัญญาการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่างบริษัทอุตสาหกรรมวิวัฒน์และธนาคารกรุงไทย และบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการนี้ประมาณ 200 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขกับเจ้าหนี้เกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทอุตสาหกรรมวิวัฒน์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนและสามารถซื้อหุ้นได้ภายในปลายปี 2553 นี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิซื้อเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร และฉลากของ “น้ำมันพืชทิพ" รวมถึงสิทธิบัตรเกี่ยวกับแบบผลิตภัณฑ์ มูลค่ารวม 55 ล้านบาท โดยบริษัทชำระเงินไปแล้ว 26.7 ล้านบาท

การลงทุนในบริษัทอุตสาหกรรมวิวัฒน์อยู่ภายใต้เงื่อนไขสำคัญหลายประการ อาทิ บริษัทดังกล่าวจะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และแผนฟื้นฟูกิจการจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลล้มละลายกลาง โดยแผนการลงทุนดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการและที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ หากการเข้าครอบครองกิจการสำเร็จก็จะส่งผลให้โครงสร้างธุรกิจและฐานะการเงินของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ

ทริสเรทติ้งจะติดตามและประเมินผลกระทบที่อาจมีต่ออันดับเครดิตของบริษัททรัพย์ศรีไทยจากการลงทุนในครั้งนี้ และจะประกาศผลการทบทวนอันดับเครดิตหลังจากที่การลงทุนมีความแน่นอนและบรรลุเงื่อนไขที่สำคัญต่างๆ ข้างต้นแล้ว

บริษัท อุตสาหกรรมวิวัฒน์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชที่ผลิตจากถั่วเหลืองหรือฝ้ายภายใต้เครื่องหมายการค้า “ทิพ" โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,125 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 1,875 ล้านบาท และมีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบที่ 748 ล้านบาท

ในส่วนของอันดับเครดิตองค์กรของบริษัททรัพย์ศรีไทยที่ยังคงที่ระดับ “BBB" นั้นสะท้อนถึงการมีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนรายได้ที่สม่ำเสมอจากธุรกิจคลังเอกสารและคลังสินค้าให้เช่า รวมทั้งฐานะการเงินที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวลดลงบางส่วนจากการที่บริษัทต้องพึ่งพิงกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เนื่องจากลักษณะธุรกิจของบริษัทที่มีฐานรายได้ขนาดเล็ก ตลอดจนภาวะตลาดของธุรกิจคลังสินค้าแบบดั้งเดิมที่เริ่มอิ่มตัว และธุรกิจคลังเอกสารที่มีการแข่งขันในด้านราคา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ