STAR เตรียมปรับขึ้นราคา 5-7% ในช่วง Q2/53 ตั้งเป้ารักษามาร์จิ้น 45%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 2, 2010 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์(STAR)กล่าวว่า กำไรสุทธิในปี 53 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน โดยบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% ประกอบกับในไตรมาส 2/53 บริษัทจะปรับขึ้นราคาสินค้าในทุกผลิตภัณฑ์อีก 5-7% ตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และจะมีการออกสินค้าใหม่ๆมากขึ้น

บริษัทจะเน้นการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปที่มองสินค้าสุขภัณฑ์เหมือนแฟชั่นที่ต้องปรับเปลี่ยนทุก 5-10 ปี และยังมีแผนจะขยายต่างส่งออกไปยังตลาดใหม่ ได้แก่ บังคลาเทศ อินเดีย แอฟริกาใต้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ 65-70% ในประเทศ 30-35% และในอนาคตก็จะขยายตลาดาดในประเทศมากขึ้นอีก 5% เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างมั่นคง เพราะแม้ตลาดต่างประเทศจะมีมาร์จิ้นดีกว่าก็ตาม แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มองว่าตลาดต่างประเทศน่าจะฟื้นตัวขึ้นแล้ว ส่วนตลาดในประเทศน่าจะฟื้นตัวตาม แต่ขึ้นอยู่กับการเมืองในประเทศ หากไม่มีเหตุการณ์แทรกซ้อน การดำเนินธุรกิจน่าจะฟื้นตัวได้ตามปกติตามภาวะเศรษฐกิจ

"สิ่งสำคัญที่สุดในปีนี้ ที่ก้าวสู่ 20 ปี จะมีการส่งเสริมการขายให้ถึงผู้บริโภคมากขึ้น ตลาดภายในประเทศต้องพยายามปรับปรุงให้ผู้บริโภคยอมรับแบรนด์ โดยในเดือน มี.ค.นี้จะร่วมมือกับ โฮมโปร โฮมเวิร์ค จัดงานส่งเสริมการขาย ซึ่งเชื่อว่าตลาดในประเทศน่ากระตุ้นยอดขายได้" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 9 พันตัน/ปี คาดว่าจะมีข้อสรุปในกลางปี 53 และจะสามารถเริ่มผลิตเพิ่มได้ในปลายปี 53 ถึงต้นปี 54

เหตุที่ต้องขยายกำลังการผลิต เนื่องจากในปีนี้บริษัทใช้อัตราการผลิตเพิ่มขึ้น จากปีก่อนเคยผลิต 7 พันตัน/ปี ได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 พันตัน/ปีในปีนี้ จึง ซึ่งใกล้ถึงจุดที่ต้องขยายกำลังการผลิต และในปีนี้บริษัทได้จัดงบลงทุนปกติราว 10-20 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตด้วย

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ในปี 53 บริษัทมีแผนจะลดต้นทุนค่าใช้จ่ายอีก 5% ส่วนราคาก๊าซที่เป็นต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน เพราะต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายด้าน อีกทั้ง บริษัทมีการปรับราคาสินค้าสูงขึ้นและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดังนั้น คาดว่าในไตรมาส 1/53 คาดว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เห็นได้จากยอดขายช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ