บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ (A) ตั้งเป้าปี 53 จะมียอดรับรู้รายได้ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14-15% จากปีก่อนที่มี 3.5 พันล้านบาท และ ตั้งเป้ายอดขายที่ 4.5 พันล้านบาท โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 4.4 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมปรับขึ้นราคาขายบ้านในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากความต้องการปรับตัวดีขึ้นหลังภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว
นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี กรรมการผู้จัดการ A คาดว่า ในปี 53 อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีอัตรา 30% และ มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 15% เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะมีสัดส่วนการโอนโครงการคอนโดเนียมสูงขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่มีอัตรากำไรค่อนข้างสูงกว่าโครงการทาวน์เฮ้าส์
และในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีโอกาสปรับขึ้นราคาบ้าน ซึ่งเป็นการปรับตามภาวะตลาด ไม่ได้เกิดจากมาตรการภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.นี้ อีกทั้งยังต้องมีการประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวม หากมีแนวโน้มเติบโตดี เชื่อว่ากำลังซื้อก็จะกลับมา
"ปีนี้ เราน่าจะมีทุกอย่างที่สดใส หนี้เราก็ลดลงได้ค่อนข้างมาก จาก(หนี้สินต่อทุน)ที่เคยอยู่ 2 เท่ากว่า ก็ลดลงมา 1.3 เท่าในปีก่อน และในปีนี้ ก็เชื่อว่าจะลดลงอีก เพราะมีการโอนจากคอนโดฯเป็นส่วนใหญ่ อย่าง ASPACE ที่เราจะรับรู้ในไตรมาส 1 ค่อนข้างมาก และเรายังมี backlog อีก 2.5 พันล้านบาท ที่ส่วนใหญ่จะรับรู้ปีนี้ จึงทำให้ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา" นายวิศิษฎ์ กล่าว
ยอดขายในปีนี้ส่วนใหญ่มาจากโครงการทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม โดยมีสัดส่วน 35% และ 65% ตามลำดับ ขณะที่บริษัทยังมีสต็อกบ้านเดี่ยว ไม่ถึง 100 ล้านบาท
สำหรับโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 4.4 พันล้านบาท ได้แก่ 1) โครงการ ASPACE-อโศกรัชดา มูลค่าโครงการ 1.6 พันล้านบาทเปิดขายในไตรมาส 2/53 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบใหม่ และเจาะลูกค้าระดับบน 2) โครงการเทาวน์เฮ้าส์ SAWANA 4.1 เกษตรนวมินทร์ มูลค่าโครงการ 419 ล้านบาท จะเปิดขายไตรมาส 3 /53
3) โครงการอารียา TOBE 2 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ที่ลาดปลาเค้า มูลค่าโครงการ 1,115 ล้านบาท เริ่มทยอยเปิดขายแล้ว 4)โครงการ CLTPII อยู่ริมแม่น้ำ มูลค่าโครงการ 640 ล้านบาท และ โครงการ MOVA SUKHUMVIT 77 มูลค่าโครงการ 504 ล้านบาท เสนอขายปลายไตรมาส 3/53 -4/53
ทั้ง 5 โครงการดังกล่าวมีที่ดินอยู่แล้ว และขณะนี้ยังมีแผนในการหาที่ดินเพิ่มเพื่อรองรับโครงการในปี 54 โดยอยู่ระหว่างการเจรจาจำนวน 2 แปลง จำนวน 55 ไร่