นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ กรรมการ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE) กล่าวถึงทิศทางผลประกอบการในปี 2553 ว่า โดยภาพรวมของ บมจ.สาลี่ อุตสาหกรรมและบริษัท พาโก้สาลี่ พริ้นท์ติ้ง น่าจะยังดีอยู่จากคำสั่งซื้อสินค้าพลาสติกที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาวะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเป็นขาขึ้น
อีกทั้งในปีนี้บริษัทและบริษัทในเครือมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัท พาโก้สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด มีแผนซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 1 เครื่อง และบมจ.สาลี่ อุตสาหกรรม มีแผนซื้อเครื่องฉีดพลาสติกขนาดใหญ่เพิ่มอีก เนื่องจากในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต
“แนวโน้มผลการดำเนินงานของ SALEE ปีนี้น่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม หลังการขายธุรกิจผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ คือ บริษัทเอสซี วาโด จำกัด ที่ถือเป็นธุรกิจที่มีความผันผวนค่อนข้างมาก และในปีนี้บริษัทเตรียมขยายกำลังการผลิตในธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่ โดยมีแผนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากลูกค้ารายเก่าและลูกค้ารายใหม่ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายที่บริษัทต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจการพิมพ์ฉลากผลิตภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ" นายสาทิสกล่าว
ปัจจุบัน SALEE มีบริษัทย่อยและบริษัทที่ลงทุนด้วย คือ บริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด ซึ่ง SALEE ถือหุ้น 70%, บริษัท ยูเนี่ยนซันไรส์ จำกัด ถือหุ้น 17.99%, บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด ถือหุ้น 10.85% บริษัท สาลี่เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ถือหุ้น 90%
สำหรับผลการดำเนินงานตามงบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อย ประจำปี 2552 พบว่าบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 96.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 138 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของ ปี 2551 ซึ่ง มีกำไรสุทธิรวม 40.73 ล้านบาทนั้น โดยมีสาเหตุมาจากการบันทึกกำไร (ก่อนภาษี) จากการขายเงินลงทุนบางส่วนในบริษัท พาโก้สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำนวน 53.28 ล้านบาท