LPN คาดปี 53 อัตรากำไรสุทธิลดเหลือ 14% จาก 17% หลังสิ้นสุดมาตรการภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 4, 2010 12:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN) กล่าวว่า มาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.53 จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรสุทธิของบริษัทในปี 53 ปรับลดลงเหลือ 14% จาก 17% ในปีก่อน ขณะที่บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ระดับใกล้เคียงปีก่อนที่ 30%

บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 53 ที่ 9.6 พันล้านบาท โดยไตรมาส 4/53 จะเป็นช่วงการรับรู้รายได้มากที่สุดประมาณ 3-4 พันล้านบาท แต่ในไตรมาส 1/53 รายได้จะลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสอื่นของปีนี้ เนื่องจากบริษัทได้รับรู้รายได้ล่วงหน้าไปค่อนข้างมากในไตรมาส 4/52 ราว 250 ล้านบาท เพราะลูกค้าเร่งโอนที่อยู่อาศัยจากความกังวลเรื่องมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์

"แม้ไตรมาส 1 ปีนี้ รายได้เราจะดร็อปลง ซึ่งเราก็รู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะเราเห็นตัวเลขการปิดการโอนในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้กังวล เพราะไตรมาสที่เหลือของปีนี้จะเป็นช่วงที่เราจะกอบโกย และเป็นปกติที่ช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นช่วงที่จะมีรายได้เยอะ อีกทั้งการเปิดโครงการจะเป็นช่วงครึ่งปีหลังเป็นส่วนใหญ่" นายโอภาส กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)ราว 10,500 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 7,227 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ฯ ในปี 54 ขณะเดียวกัน ก็จะมียอดขายใหม่เข้ามาเพิ่มใน backlog จากโครงการใหม่ที่จะเปิดขายในปีนี้ ซึ่งบริษัทมีแผนเปิดตัว 2 โครงการปลายเดือน มี.ค. บนทำเลย่านรัชโยธิน มูลค่า 2.9 พันล้านบาท และกล้วยน้ำไท อีก 1.5 พันล้านบาท รวมทั้ง ยังมีโครงการเดิมที่จะทยอยส่งมอบอีก

นายโอภาส คาดว่า ยอดขายของบริษัทในปีนี้น่าจะเติบโตขึ้นเป็น 1.3 หมื่นล้านบาท จาก 8,268 ล้านบาทในปี 52 เนื่องจากการกลับมาตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยช่วง 5 สัปดาห์แรกของปีนี้บริษัทมียอดขายแล้วกว่า 1 พันล้านบาท และเชื่อว่าในไตรมาส 1/53 จะมียอดขาย 4-5 พันล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 6-8 โครงการ มูลค่ารวม 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทไม่มีความกังวลหลังสิ้นสุดมาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธการดำเนินงาน และคงไม่เห็นการปรับราคาขายขึ้นจากเหตุผลดังกล่าว เพราะปกติบริษัทจะมีการปรับขึ้นราคาขาย 5-10% หลังเปิด Pre-Sale แล้ว ส่วนการขยายโครงการในต่างจังหวัด ขณะนี้มองหาในหลายทำเล เช่น ที่พัทยา ชลบุรี นครราชสีมา หรือ โครงการติดชายทะเล คาดว่าจะสามารถสรุปรูปแบบโครงการและทำเลได้ภายในปีนี้

บริษัทเตรียมเพิ่มงบลงทุนซื้อที่ดินเป็น 2.5 พันล้านบาท จากเดิมวางไว้ 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินภายใต้ บริษัท พรสันติ ที่ LPN ถือหุ้นอยู่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจัดซื้อที่ดินแปลงใหญ่มากกว่า 50 ไร่ คาดว่าจะมีข้อสรุปสิ้นเดือน มี.ค.นี้ โดยโครงการดังกล่าวจะเป็นการเปลี่ยนโมเดลการพัฒนาโครงการจากเดิมที่บริษัท พรสันติ จะเน้นทำทาวน์เฮ้าส์ เปลี่ยนมาเป็นการพัฒนาทุกรูปแบบทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และคอมมูนิตี้ มอลล์ด้วย ซึ่งจากการปรับโมเดลดังกล่าวจะทำให้อนาคตสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากโครงการแนวราบมากขึ้น จากปัจจุบันที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากโครงการคอนโดมิเนียม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ