(เพิ่มเติม) PRO เป้าปี 53 พลิกมีกำไร ศึกษารับงานตปท.-เล็งฟื้นแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 4, 2010 14:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี(1999)(PRO) ตั้งเป้าปี 53 ทำรายได้ 435 ล้านบาท และมั่นใจว่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ซึ่งขณะนี้บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 750 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและจัดสรรหุ้นส่วนที่เหลือเสนอขายแก่ผู้ลงทุน 3 ราย มั่นใจว่าจะขายหุ้นได้ทั้งหมดตามแผนงาน

นายเกรียงไกร เลิศศิริสัมพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการสายบัญชีการเงิน PRO กล่าวว่า รายได้ในปีนี้จะมาจากรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อยที่ดำเนินการรีไซเคิลขยะอลูมิเนียม ภายใต้ปริมาณการจัดการขยะ ที่ 1 แสนตัน/ปี จากปี 52 อยู่ที่ 7 หมื่นตัน/ปี ขณะที่กำไรในปีนี้ก็จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีสัญญาณการกลับมาของรายได้ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 52 และทยอยปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากบริษัทกำไรและมีเงินจากการเพิ่มทุนจะทำให้บริษัทสามารถนำเงินมาล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 20 ล้านบาทได้บางส่วน

บริษัทจะเสนอขายห้นเพิ่มทุน 750 ล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมก่อนในอัตราส่วน 7 หุ้นเดิม ต่อ 3 หุ้นใหม่ ที่ราคา 0.32 บาท/หุ้น จองซื้อและชำระเงินค่าหุ้น 17-23 มี.ค.53 หากมีหุ้นเหลือก็จขายให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) โดยขณะนี้มีนักลงทุนแสดงความสนใจซื้อหุ้น 3 ราย ได้แก่ Asean China Investment Fund L.P., Portchester Asset Management Ltd และ Madam Leow Lay Choo โดยเป็นการแนะนำจากผู้ถือหุ้นเดิม คือ Enviro-Hub Holding จากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นใน PRO 23%

"มั่นใจว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีคนใช้สิทธิทั้งผู้ถือหุ้นเดิม และรายใหม่ 3 ราย เพราะครั้งนี้ ขายต่ำกว่าราคาพาร์ ที่ 0.70 บาท แม้จะทำให้ส่วนต่ำมูลค่าหุ้นอยู่ในงบดุล แต่จะไม่ได้แสดงอยู่ในผลประกอบการ จึง'ไม่มีผลต่อการดำเนินงานของบริษัท และไม่น่ากังวล การดำเนินการครั้งนี้เพื่อเพิ่มรายได้และทำให้เรามีกำลังที่ใหญ่ขึ้น"นายเกรียงไกร กล่าว

นายเกรียงไกร คาดว่า จากการเพิ่มทุนหากผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุน PP ทั้ง 3 ราย จะทำให้บริษัทได้เงินกว่า 200 ล้านบาท โดย บริษัทจะนำไปใช้ในการเสริมสภาพคล่อง รองรับโครงการลงทุนใหม่ๆ และการเพิ่มช่องทางการให้บริการในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและวิจัยถึงการเข้าร่วมทุนกับพันธมิตรรับการบริหารจัดการขยะในประเทศมาเลเซีย ปริมาณ 5 ล้านตัน/หลุม โดยจะสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ ซึ่งน่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวใน 1-2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการบริหารจัดการขยะในประเทศสิงคโปร์ ขณะที่การกำจัดขยะในประเทศไทยยังคงมีงานที่ที่บริษัทรับบริหารจัดการ ที่ จ.สระแก้ว พื้นที่ 900 ไร่

นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า บริษัทอาจมีการนำโครงการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันกลับมาพิจารณาดำเนินการอีกครั้ง จากที่ได้ชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปี 52 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ผันผวนเมื่อปีก่อน จากน้ำมันที่อยู่ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เหลือ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล

โครงการดังกล่าวขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันปรับขึ้นอยู่ที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล จะถือว่าคุ้มการลงทุน อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวอาจยังไม่ได้เห็นภายในปีนี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาดำเนินการ และจะต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในแง่การเฮนเดอร์ราคา


แท็ก (PRO)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ