บมจ. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) คาดว่าในปี 53 บริษัทจะมีกำไรสูงกว่าปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ที่จะเติบโตมากกว่า 10% ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิในระดับ 10-12% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30% โดยในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3-4 พันล้านบาท
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ของบริษัทในปี 53 จะเพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าของโครงการที่แล้วเสร็จ โดยในไตรมาส 1/53 คาดว่าบริษัทจะมียอดรับรู้รายได้อยู่ในระดับสูงใกล้เคียงไตรมาส 4/52 ที่มียอดรับรู้รายได้ 1.27 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 120.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/53 ยอดโอนบ้านของลูกค้าเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะไม่ต่ออายุมาตรการภาษีกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุด มี.ค.53 โดยขณะนี้มีการยอดโอนแล้ว 500 ล้านบาท และเตรียมรอโอนอีก 700 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะรับรู้ฯ เป็นรายได้ในปีนี้
บริษัทมียอดขาย(backlog)รวมทั้งสิ้นประมาณ 4.17 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 2 พันล้านบาท
"ปี 53 เป้ารายได้เราก็อยากเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ซึ่งกำไรจะสูงขึ้นตามยอดรายได้ที่มากขึ้นด้วย" นายสุริยน กล่าว
นายสุริยน กล่าวว่า บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดเตรียมเข้าซื้อที่ดิน ถนนพหลโยธิน ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งร้านอาหารจิตรโภชนา เนื้อที่กว่า 6 ไร่ เพื่อสร้างเป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ และยังคงเป้าหมายเน้นกลุ่มลูกค้าระดับบน คาดว่าจะเปิดตัวโครงการได้ในปี 54
ส่วนที่ดินย่านสนามบินน้ำพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ มีแผนก่อสร้างเป็นโครงการคอนโดมิเนียม คาดว่าภายใน 1-2 ปีจะเปิดโครงการได้ เนื่องจากยังรอการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และให้มีการเช่าพื้นที่ของศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ให้ได้เต็มพื้นที่ก่อน
และในปี 53 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 2 แห่ง ย่านถนนพญาไท และสีลม รวมมูลค่าโครงการ 3-4 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดโครงการได้ในไตรมาส 2/53 หรือไตรมาส 3/53
นายสุริยน กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจไปยังธุรกิจโรงแรมเพื่อลดความเสี่ยงและหาแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนขึ้น โดยจะเปิดโครงการ Marrakesh หัวหิน ซึ่งเป็นทั้งที่พักอาศัยและโรงแรม มูลค่าโครงการรวม 2,900 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 2,400 ล้านบาท และโรงแรม 500 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จไตรมาส 4/53 หรือราวไตรมาส 1/54
สำหรับในส่วนของโรงแรมจะมีขนาด 76 ห้อง ซึ่งบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเข้ามาบริหาร คาดว่าเปิดให้บริการได้ไตรมาส 2-3/54 คาดว่าช่วงแรกจะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรม 100 ล้านบาท/ปี ซึ่งธุรกิจโรงแรมจะมีการบริหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป และหากมีโอกาสจะมองหาการขยายธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง
และในวันที่ 15 มี.ค.53 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลงวดที่เหลือของปี 52 จากที่จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.15 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ ในปี 52 MJD มีรายได้ 2.9 พันล้านบาท เติบโต 12.9% จากปี 51 ที่ ที่มีรายได้ 2.6 พันล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 406.61 ล้านบาท ลดลง 8.7% จากปี 51 และในปี 53 บริษัทมีเป้าหมายลดอัตราหนี้สินต่อทุน เหลือ 1 เท่า จากปัจจุบัน 1.68 เท่า ส่วนใหญ่เป็นหนี้จากสถาบันการเงินที่นำมาลงทุนในโครงการ จำนวน 3.5 พันล้านบาท มีต้นทุนการเงินอยู่ที่ 6.5-7%