SET ภาคบ่ายปิดที่ระดับ 720.29 จุด ลดลง 3.67 จุด(-0.51%)มูลค่าการซื้อขาย 19,611.26 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบแม้ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี ตลาดหุ้นต่างประเทศต่างบวกกันถ้วนหน้า แต่ตลาดหุ้นบ้านเราถูกปัจจัยการเมืองในประเทศกดดันอยู่ หลังรัฐบาลเตรียมประกาศใช้ กม.ความมั่นคงฯ ช่วงชุมนุมใหญ่เสื้อแดง ทำให้ดัชนีภาคบ่ายปิดลดลงเช่นเดียวกับช่วงเช้า คาดพรุ่งนี้แกว่งตัวใกล้เคียงวันนี้ พร้อมให้แนวรับที่ 715-710 และแนวต้านที่ 725-730 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายวันนี้ปิดที่ระดับ 720.29 จุด ลดลง 3.67 จุด(-0.51%)มูลค่าการซื้อขาย 19,611.26 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของวันนี้ที่ 729.03 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 716.49 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 76 หลักทรัพย์ ลดลง 272 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 110 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ แม้จะมีแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่ประกาศออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น แสดงว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ทิศทางการฟื้นตัว รวมทั้ง สินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่รัฐบาลเตรียมประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฯมาดูแลสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะยังแกว่งตัวแคบๆ เช่นเดียวกับวันนี้ เนื่องจากปัจจัยการเมืองยังกดดันตลาดหุ้นไทย เพราะทุกคนยังรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งการที่จะประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงฯ มีทั้งผลดีและผลเสีย โดยคนบางกลุ่มอาจอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการป้องกันไว้ก่อน แต่อีกมุมมองอาจเห็นว่าเป็นการสร้างความไม่เชื่อมั่นในสถานการณ์ รัฐบาลอาจประเมินแล้วว่าสถานการณ์จะรุนแรงต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาหลายครั้งที่มีการประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงฯ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก
"ตอนนี้นักลงทุนรอดูพัฒนาการความชัดเจนด้านการเมืองที่แท้จริง เพราะมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ คงต้องรอดูช่วงปลายสัปดาห์ ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เกิดขึ้นจริงก็คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากนัก โดยดูจากหลายครั้งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไร"น.ส.อาภรภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ให้กรอบการลงทุนพรุ่งนี้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ แนวรับที่ 715-710 และแนวต้านที่ 725-730 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,835.22 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,460.45 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,374.76 ล้านบาท ปิดที่ 24.90 บาท ลดลง 1.10 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,235.96 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,171.25 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท ลดลง 0.60 บาท