(เพิ่มเติม) BJC ตั้งเป้ารายได้ปี 53 โตมากกว่า GDP,สรุปดีลร่วมทุนเวียดนามภายในปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 10, 2010 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เบอร์ลี่ยุคเกอร์(BJC) คาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจในประเทศ แต่ก็มีเป้าหมายที่จะเติบโตได้สูงกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยบริษัทจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 23-24% และอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 5.5% ใกล้เคียงกับปีก่อน พร้อมทั้งเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง คาดว่าภายในปีนี้จะสามารถสรุปการเจรจาร่วมลงทุนธุรกิจในเวียดนามเพิ่ม 2 รายได้ ซึ่งจะเป็นงบลงทุนนอกเหนือจากงบปกติที่ตั้งไว้ 1 พันล้านบาทในปีนี้

บริษัทยังได้ศึกษาแนวทางการเพิ่มทุนเผื่อไว้สำหรับในอนาคต หากมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้น BJC ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BJC กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเจรจากับผู้ร่วมทุนเวียดนาม 2 ดีล คาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ขณะนี้รอเรื่องใบอนุญาตอยู่ ซึ่งทั้ง 2 ดีลจะเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการทางอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค โดยดีลแรกจะเป็นการเข้าถือหุ้น 51% ส่วนอีก 1 ดีลกำลังเจรจารายละเอียดกับพันธมิตรอยู่ ทั้ง 2 ดีลไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งเงินทุน เพราะจะใช้รูปแบบผสมผสานระหว่างกระแสเงินสดกับเงินกู้

การขยายธุรกิจในต่างประเทศเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เป็น 15-20% ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า โดยปัจจุบันมีรายได้ต่างประเทศไม่ถึง 2 พันล้านบาท จากยอดขายทั้งหมด 2.28 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทมองตลาดหลักในต่างประเทศคือ เวียดนาม พม่า มาเลเซีย ที่จะสามารถสนับสนุนการเติบโตของยอดขายได้ เพราะทั้ง 3 ตลาดมีการเติบโตของเศรษฐกิจต่อเนื่อง

"2 ดีลเวียดนามถ้าจบจะเพิ่มยอดขายในเวียดนามให้ก้าวกระโดด ตัวเลข..เป็นสาระสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มเรา จากเดิมธุรกิจในเวียดนาม(อุปโภคบริโภค)ของเรามียอดขาย 200 ล้านบาท"นายอัศวิน กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทมีบริษัทในฮ่องกงที่จะรองรับการขยายตัวของธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งบริษัทในฮ่องกงจะใช้เป็นฐานที่จะไปลงทุนในประเทศอื่น

"ที่ฮ่องกงเพื่อการบริหารภาษีที่คล่องตัวมาก เป็นหน่วยงานเก็บเงินกับลูกค้าเพื่อไปลงทุนต่อในต่างประเทศ" นายอัศวิน กล่าว

นายอัศวิน กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนปกติในการปรับปรุงเครื่องจักรและดูแลเตาเผา ในจำนวนนี้ยังไม่รวมการลงทุนในเวียดนามที่ยังรอข้อสรุป ขณะที่การขยายธุรกิจในประเทศยังคงมองหาธุรกิจจัดจำหน่ายเพราะให้วอลุ่มมาก ซึ่งก็มีหลายรายเข้ามาเจรจาทั้งบริษัทในตลาดและนอกตลาด อยู่ระหว่างพิจารณาทั้งพวกขวดแก้ว บรรจุภัณฑ์ สบู่ กระดาษทิชชู เป็นต้น

"ปัจจุบันรายได้หลักมาจากสินค้าตัวเอง 13,000-15,000 ล้านบาท มาจากคู่ค้า 8,000 ล้านบาท แต่แนวโน้มอยากจะขยายสินค้าของคู่ค้ามากขึ้น"นายอัศวิน กล่าว

พร้อมกันนั้น บริษัทกำลังศึกษาการเพิ่มทุน เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องของหุ้น เพราะปัจจุบัน P/B ต่ำ ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อม ๆ กับการขยายกิจการ และซื้อกิจการใหม่ หรือมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้การเพิ่มทุนมีโครงการมารองรับ

สำหรับแผนงานด้านอื่น ๆ ในปีนี้ บริษัทยังจะเดินหน้าการปรับปรุงระบบภายใน รวมทั้งการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่อเนื่องจากปีก่อนที่ทำได้ผลดีมาก

ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองกระทบกับบริษัทบ้าง และในแง่ของการท่องเที่ยวบางส่วน เนื่องจากพวกผลิตภัณฑ์บรรจุขวดและบรรจุภัณฑ์อื่น มีผู้ใช้หลักส่วนหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยว แต่หากดูจากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ยังถือว่าใช้ได้ และ 2 สัปดาห์แรกของเดือนมี.ค.ก็ยังดีอยู่ จึงเชื่อว่ายอดขายไตรมาส 1/53 น่าจะดีกว่าไตรมาส 1/52 ที่ค่อนข้างแย่มาก


แท็ก เวียดนาม   (BJC)   GDP  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ