นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย(SINGER) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะล้างขาดทุนสะสมที่มีเหลืออยู่ 92 ล้านบาทภายในปีนี้ ขณะที่คาดว่ากำไรจะสูงขึ้นจากปี 52 ตามยอดขายที่เติบโตขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมายในช่วงปี 53-57 ยอดขายจะเติบโตปีละ 10% จากปี 52 ที่มียอดขาย 1.87 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปีนี้ได้เห็นรายได้เกือบ 2 พันล้านบาท
"เศรษฐกิจปีนี้ฟื้นตัว ทั้งราคาสินค้าเกษตรดีรวมทั้งมีงบไทยเข้มแข็งจึงสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ส่วนการเมืองกระทบระยะสั้นและหากการเมืองนิ่งจะเป็นปีทองของไทย และหากผ่านเหตุการณ์ช่วง 1-2 วันนี้ไปได้ เชื่อว่าทุกคนจะมีสติมากขึ้น" นายบุญยง กล่าว
สำหรับรายได้หลักของบริษัทมาจากการจำหน่าย เครื่องปรับอากาศ ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ตู้แช่ไวน์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น โดยคาดว่าในปีนี้รายได้ที่โดดเด่นจะมาจากเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีลุ้นว่ายอดขายอาจจะแตะ 3 หมื่นเครื่อง สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 2 หมื่นเครื่อง เนื่องจากช่วง 2 เดือนแรกของปียอดขายเติบโตเกือบ 40% หรือมียอดขาย 5 พันเครื่องแล้ว และช่วงหน้าร้อนจะขายได้อีก 3,000-4,000 เครื่องต่อเดือน ซึ่งเป็นผลจากแคมเปญผ่อนแอร์ 30 บาท/วัน
พร้อมกันนั้น บริษัทยังเตรียมเปิดสาขาใหม่ 10 แห่ง โดยงบลงทุนเปิดสาขารวมจำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งจะลงทุนสาขาละ 2 ล้านบาท ขณะที่มีงบด้านการตลาดอีก 100 ล้านบาท รวมเป็นงบลงทุนปีนี้ 120 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสด 346 ล้านบาทสำหรับลงทุน
นายบุญยง กล่าวว่า ยอดขายในช่วงไตรมาส 1/53 จะดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน จากการขายเครื่องปรับอากาศที่เข้ามาหนุน จากช่วงเดือน ม.ค.53 ทำให้สัดส่วนรายได้จากเครื่องปรับอากาศเพิ่มเป็น 21% จากเดิม 5% แต่อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)เฉลี่ยลดลงเหลือ 55% จากปีก่อนอยู่ที่ 66% เนื่องจากเครื่องปรับอากาศมีมาร์จิ้นเพียง 45% ต่ำกว่าจักรเย็บผ้าที่มีมาร์จิ้นเกือบ 60% ส่วนตู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้ามีมาร์จิ้น 50%
บริษัทตั้งเป้าปี 53 จะมีจำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มเป็น 2 แสนบัญชี จากปีก่อนอยู่ที่ 1.7 แสนบัญชี ส่วนปัญหาภัยแล้งมีความกังวลแต่มีกลยุทธ์โดยการเก็บเงินค่างวดล่วงหน้า หรือเก็บค่างวดมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์ด้านการเก็บเงินลูกค้า และเปิดศูนย์พิจารณาและอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนหนี้เสินลดลงเหลือ 16% ในปีนี้จาก 30% ในปี 52
นอกจากนี้การที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 48% เหลือ 43% จะทำให้สภาพคล่องหุ้น SINGER ในตลาดหลักทรัพย์ดีขึ้น และหุ้นของบริษัทเหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว