โบรกเกอร์ประสานเสียงเชียร์"ซื้อ"หุ้นบมจ.น้ำประปาไทย(TTW)คาดกำไรสุทธิปี 53 เติบโตสูง หรือเพิ่มขึ้น 11-19% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,594 ล้านบาท มาที่ระดับ 1.78 - 1.9 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ปรับราคาจำหน่ายน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 4% ตามอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปี 52 และปริมาณจำหน่ายสูงขึ้นตามความต้องการในพื้นที่บริการ จ.นครปฐม และ จ.ปทุมธานี เห็นได้จากยอดขายน้ำในเดือน ก.พ.อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 120,000 ลบ.ม./วัน เป็น 440,000 ลบ.ม./วัน
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลงหลังจากปีที่แล้วได้ทำการรีไฟแนนซ์หนี้ และยังได้รับผลตอบแทนที่ระดับประมาณ 6-8% จึงมองว่าเป็นหุ้น Defensive stock เหมาะกับภาวะตลาดช่วงนี้ ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานยังอยู่ระดับต่ำ โดยช่วงเช้านี้ราคาหุ้น TTW เคลื่อนไหวที่ 4.30 บาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 6.00 บล.ซิกโก้ ซื้อเก็งกำไร 5.80 บล.โกลเบล็ก ซื้อ 5.70 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 5.60 บล.ไอร่า ซื้อ 5.60
นายบุรพัฒน์ จรัสฉิมพลีกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ คาดว่า ในปี 53 ผลประกบอการของ TTW จะออกมาดี โดยประเมินกำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 1,782 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน เนื่องมาจากบริษัทได้ปรับขึ้นค่าน้ำจากปีก่อน และมีปริมาณการใช้น้ำที่เติบโตขึ้น เห็นได้ชัดในไตรมาส 4/52 และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดิอน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา
ประกอบกับ ปีนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายรายการพิเศษ หลังจากปีก่อนมีค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์หนี้ไปแล้ว และส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายปีนี้ลดลง ขณะที่ทำให้กำไรปรับตัวดีขึ้น
"เราแนะนำให้ซื้อเก็งกำไร เพราะว่ายังกังวลการเมืองที่มีผลต่อตลาดภาพรวม แต่ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทดี และราคาหุ้นถูกอยู่แล้ว" นายบุรพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังคาดว่าปี 53 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 0.30 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 7% (บนราคาหุ้น 4.30 บาท)
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส คาดว่า TTW จะมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นเป็น 1,900 ล้านบาทในปี 53 จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,594 ล้านบาท หรือเติบโต 19% โดยปีนี้ได้ปรับค่าน้ำตามสัญญาที่มีการปรับขึ้นทุกปีตามอัตราเงินเฟ้อ และบริษัทได้ปรับโครงสร้างเงินกู้ได้ทำให้ภาระดอกเบี้ยลดลง คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 7.3-7.9%
"เรามองหุ้นตัวนี้ ต่อต้านเงินเฟ้อ เพระราคาขายน้ำของเขาตามราคาเงินเฟ้อ... TTW มีจุดเด่นมีหลายอย่างทั้งในเรื่องรายได้ของเขาไม่ผันผวน และปรับขี้นราคาค่าน้ำตามสัญญา ขณะที่ Earning(กำไร)เติบโต และยังมีปันผลดีด้วย" นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ส่วน น.ส.ปาวีณา เดชอิทธิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า คาดว่า ผลประกอบการของ TTW ในไตรมาส 1/53 จะออกมาดี จากการที่ได้ปรับขึ้นค่าน้ำ 4% จากปลายปีก่อน และยอดจ่ายน้ำใน 2 เดือนแรกค่อนข้างสูง โดยทั้งปี 53 คาดว่าจะมีกำไรเติบโต 18% มาที่ 1,888 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทนการจ่ายเงินปันผลก็อยู่ในระดับ 6-7%
"เป็นหุ้น Defensive ที่มีอัตราเติบโตดี และยังมีปันผลดีด้วย ปีนี้กำไรก็ดูดี ตัวธุรกิจหลักการเติบโตต่อเนื่อง"น.ส.ปาวีณา กล่าว
นอกจากนั้น ในปีนี้ TTW จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 440,000 ลบ.ม./วัน จาก 320,000 ลบ.ม./วันในปัจจุบัน และรายจ่ายดอกเบี้ยลดลงจากการที่บริษัทได้รีไฟแนนซ์หนี้
บล.โกลเบล็ก รายงานว่า TTW แจ้งยอดจำหน่ายน้ำประปาในเดือนก.พ.ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา โดย TTW มีปริมาณจำหน่ายน้ำประปาเฉลี่ยที่ระดับ 320,594 ลบ.ม./วัน เพิ่มขึ้น 7%mom และ 13%yoy ส่วน PTW (บริษัทย่อย) มีปริมาณจำหน่ายน้ำประปาเฉลี่ยที่ 336,158 ลบ.ม./วัน เพิ่มขึ้น 4.8% ทั้ง mom และ yoy
คาดว่า TTW จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นได้อีกในปีนี้ โดยจะมีกำไรสุทธิประมาณ 1,887 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน จากราคาขายน้ำประปาต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 23.55 เป็น 24.46 บาท/ลบ.ม.ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค.53 และ ปริมาณจำหน่ายน้ำเพิ่มขึ้นโดยไตรมาส 3/53 จะมีกำลังการผลิตใหม่ของ TTW เพิ่มขึ้นอีก 120,000 ลบ.ม./วัน
รวมทั้งปีนี้ ไม่มีค่าปรับจากการรีไฟแนนซ์เหมือนกับที่เกิดขึ้นในปี 52(180 ล้านบาท)และดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลังจากรีไฟแนนซ์ได้ต้นทุนเงินกู้ที่ต่ำกว่า อีกทั้งภาษีจ่ายลดลงเนื่องจากไม่มีภาษีจ่ายย้อนหลังของ PTW เหมือนกับปี 52(80 ล้านบาท)