ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นการเงิน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 44.51 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 12, 2010 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากนายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป แสดงความเชื่อมั่นว่าซิตี้กรุ๊ปจะสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดบวกไม่มากนักและดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 44.51 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 10,611.84 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 4.63 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 1,150.24 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 9.51 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 2,368.46 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2

หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นหลังจากนายบัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าซิตี้กรุ๊ปจะสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืน และจากการคาดการณ์ที่ว่าสภาคองเกรสอาจลดความเข้มงวดในร่างกฎระเบียบการธนาคาร ทั้งนี้ ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 1.7% และธนาคารซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่ง 5.6%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มี.ค. ลดลง 6,000 ราย แตะที่ 462,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 468,000 ราย และรายงานที่ว่าสหรัฐขาดดุลการค้า 3.73 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ลดลง 6.6% จาก 3.99 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นผลจากการปริมาณการนำเข้าน้ำมันลดลงสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีพ.ศ.2542

นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าบริษัท บีพี เตรียมทุ่มเงิน 7 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสิทธิการสำรวจแหล่งน้ำมันจากบริษัท เดวอน เอนเนอร์จี คอร์ป ซึ่งจะเปิดทางให้บีพีได้รับสิทธิในการสำรวจแหล่งน้ำมันในบราซิล อ่าวเม็กซิโก และทะเลแคสเปียน

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยดัชนี CPI เดือนก.พ.ขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดค้าปลีกของจีนในช่วงเดือนม.ค.และก.พ. 2553 ปรับตัวขึ้น 17.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 2.51 ล้านล้านหยวน (3.675 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นผลมาจากการอุปโภคบริโภคในช่วงตรุษจีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ., มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนมี.ค. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ