ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: หุ้นกลุ่มเหมืองกดฟุตซี่ปิดลบ ขณะตลาดหวั่นจีนคุมเข้มการเงินเพิ่ม

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนตัวเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงตามราคาแร่โลหะ จากความวิตกว่าจีนอาจเดินหน้าใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 23.31 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 5,617.26 จุด หลังจากที่ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยดัชนี CPI เดือนก.พ.ขยายตัว 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 16 เดือน และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ 2.5% โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่ขยายตัวสูงเกินคาดของจีนได้จุดชนวนความวิตกกังวลว่า รัฐบาลจีนอาจประกาศใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อหยุดความร้อนแรงดังกล่าว

หุ้นบริษัทเหมืองแร่เป็นแกนนำถ่วงดัชนีปรับตัวลดลง โดยบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดในโลก ร่วง 2.1% หลังราคาทองแดงอ่อนตัวในการซื้อขายที่ตลาดโลหะลอนดอน เช่นเดียวกับตะกั่ว นิกเกิล ดีบุก และซิงค์ หุ้นเอ็กสตาตาลบ 1.6% และริโอทินโตลดลง 1.6% เช่นกัน

ขณะที่คาซัคมิส ผู้ผลิตทองแดงทรุดลง 3.2% เนื่องจากโกลด์แมน แซคส์ อิงค์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นบริษัท ด้านเฟรสนิลโลลบ 2.9% และแรนด์โกลด์ลดลง 2.5%

อย่างไรก็ดี หุ้นโฮม กรุ๊ป ไต่ขึ้น 1.6% ซึ่งช่วยจำกัดช่วงขาลงของดัชนี FTSE 100 ไว้ได้ เนื่องจากบริษัทผู้ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านรายใหญ่ประเมินผลกำไรก่อนหักภาษีที่สูงกว่าระดับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ส่วนคิงฟิสเชอร์ ผู้ค้าปลีกสินค้าเกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยรายใหญ่สุดของยุโรป ไต่ขึ้น 3.2% และมาร์ก แอนด์ สเปนเซอร์ กรุ๊ป ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่สุดของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 1.3%

ด้านวิลเลียม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต ร่วงลง 2.8% เนื่องจากแม้ผลกำไรตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นถึง 21% แต่บริษัทคาดว่า ปี 2553 นี้จะยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับบริษัท