อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่ถึง 1 พันล้านหุ้น เพราะคาดว่าจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนได้ราคาที่ดี เนื่องจากเชื่อว่าราคาหุ้นกระดานในช่วงที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจะสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 1/53 ที่คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 4/52 โดยในเดือน ม.ค.-ก.พ.53 จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 3.46 ล้านคนต่อเดือน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนผู้โดยสาร 3.05 ล้านคน/เดือน
ทั้งนี้ ทำให้อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)เพิ่มเป็น 82.2% สูงที่สุดเป็นประวัติการ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 76.1% ขณะที่รายได้เพิ่มเป็น 2.21 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร จาก 2.14 บาทต่อคนต่อกิโลเมตร แสดงว่าบริษัทได้ผ่านพ้นวิกฤตและมีการปรับยุทธศาสตร์ที่มีการสอดคล้องกับการฟื้นตัวของธุรกิจและความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสาร
"เราอาจออกหุ้นเพิ่มทุนไม่ถึง 1 พันล้านหุ้น เพราะคิดว่าราคาจะดีกว่านั้น จากผลประกอบการไตรมาส 1/53 ที่จะออกมาดีกว่าไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะดีขึ้น"นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ส่วนขั้นตอนการเพิ่มทุนต้องนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในเดือน 28 เม.ย.นี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการขั้นตอนเสนอช่วงราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและทำโรดโชว์ ในช่วงไตรมาส 2/53 หรืออย่างช้าภายในไตรมาส 3/53 และคาดว่าจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนภายในช่วงดังกล่าวด้วย
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนคาดว่าอัตรส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)ลดลงเหลือ 2 เท่าจากปัจจุบันที่ 4 เท่า ซึ่งเงินที่ระดมทุนได้จะเตรียมไว้ใช้ในแผนอนาคตข้างหน้า แต่บริษัทจะกู้เงินจากสถาบันการเงินจำนวน 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีหนี้ที่ครบกำหนดในปีนี้ 2.9 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังมีมติอนุมัติให้เช่าเครื่องบินระยะสั้นเป็นเวลา 3-56 ปี จำนวน 3-6 ลำ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเครื่องบิน
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจาก THAI กล่าวว่า บริษัทจะเช่าเครื่องโบอิ้ง 777-300 ER โดย 3 ลำแรก เจรจาเช่ากับสายการบินแอร์เวย์ กับ JET AIRWAYS ซึ่งเจรจาต่อรองแล้ว โดยวงเงินการเช่าที่ 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ /เดือน ภายใน 2 เดือนคาดว่าจะเข้าประจำการในฝูงบิน ส่วนเครื่องบินอีก 3 ลำ อีกอยู่ระหว่างการเจรจากับแอร์อินเดียอยู่