SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 733.34 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด(+1.02%)มูลค่าการซื้อขาย 15,032.40 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายบวกต่อเนื่อง หลังการชุมนุมวันแรกเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยและสลายตัวในที่สุด บวกกับแนวโน้ม Flow จากต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง และแรงเก็งกำไรนักลงทุนบางกลุ่มที่คาดว่าการชุมนุมในวันที่ 14 มี.ค.จะไม่รุนแรงและยืดเยื้อเหมือนวันนี้ ดังนั้น สัปดาห์หน้าคงต้องติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด หากไม่รุนแรงดัขนีก็น่าจะไปต่อได้ ทดสอบแนวต้านใหม่ที่ 750 จุด โดยให้กรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าโดยแนวรับ 715 แนวต้าน 738 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 733.34 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด(+1.02%)มูลค่าการซื้อขาย 15,032.40 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 733.34 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 722.89 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 224 หลักทรัพย์ ลดลง 80 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 148 หลักทรัพย์
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า ในช่วงบ่ายตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องและหุ้นปรับตัวสูงกว่าที่ทาง บล.เคจีไอ ด้วย โดยคาดว่านักลงทุนเห็นว่า Sentiment การลงทุนดีขึ้นหลังจากการชุมนุมทางการเมืองในวันนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ภาครัฐสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และได้ทยอยสบายการชุมนุมในจุดต่างๆไปแล้ว ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มเข้ามาซื้อเก็บหุ้นเพื่อหวังผลตอบแทนการลงทุน โดยคาดว่าการชุมนุมในช่วง 13-14 มี.ค.จะไม่มีความรุนแรงเหมือนในวันนี้ และจากการที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ยืนอยู่ได้ในทิศทางบวก
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าต้องแบ่งเป็น 2 กรณี คือ การชุมนุมในวันอาทิตย์ไม่เกิดเหตุรุนแรงและยืดเยื้อเชื่อว่าสัปดาห์หน้าตลาดหุ้นจะอยู่ในทิศทางขาขึ้นบวกได้ต่อ รวมกับแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติจะยิ่งให้ดัชนีไปต่อได้ และอาจทดสอบแนวต้านใหม่ที่ 750 จุด
แต่หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงต้องมาประเมินสถานการณ์กันใหม่ในช่วงสัปดาห์หน้า คาดว่าจะส่งผลให้ดัชนีลดลงแต่ไม่สามารถไปประมินได้ว่าเท่าไร เบื้องต้นคาดว่าไม่หลุดแนวรับที่ 715 จุด
ทั้งนี้ โดยให้แนวรับสัปดาห์ไว้ที่ 715 จุด แนวต้าน 738 จุด และหากสถานการณ์การเมืองไม่รุนแรงสัปดาห์หน้าหุ้นจะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 750 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,112.93 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
TCAP มูลค่าการซื้อขาย 940.64 ล้านบาท ปิดที่ 21.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
SCIB มูลค่าการซื้อขาย 893.24 ล้านบาท ปิดที่ 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 868.67 ล้านบาท ปิดที่ 240.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 784.81 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท