รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันนี้ มีการซื้อขายรวม 11,160 สัญญา เป็น SET50 Index Futures จำนวน 6,436 สัญญา โดยสัญญา S50H10 มีปริมาณการซื้อขาย 5,264 สัญญา, สัญญา S50M10 มีปริมาณการซื้อขาย 1,108 สัญญา, สัญญา S50U10 มีปริมาณการซื้อขาย 48 สัญญา และ สัญญา S50Z10 มีปริมาณการซื้อขาย 16 สัญญา
ส่วน Single Stock Futures มี 1,483 สัญญา โดยสัญญา ADVANC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 32 สัญญา, สัญญา BANPU Futures มีปริมาณการซื้อขาย 1 สัญญา , สัญญา BAY Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2 สัญญา , สัญญา BBL Futures มีปริมาณการซื้อขาย 7 สัญญา, สัญญา ITD Futures มีปริมาณการซื้อขาย 490 สัญญา ,สัญญา KTB Futures มีปริมาณ การซื้อขาย 636 สัญญา
สัญญา LH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 45 สัญญา , สัญญา PTTEP Futures มีปริมาณการซื้อขาย 21 สัญญา, สัญญา QH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 81 สัญญา และ สัญญา TTA Futures มีปริมาณการซื้อขาย 168 สัญญา
ขณะที่ สัญญา KBANK Futures ,สัญญา PTT Futures , สัญญา SCB Futures และ สัญญา SCC Futures ไม่มี ปริมาณการซื้อขาย
ส่วน Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2,675 สัญญา
สำหรับ SET50 Options มีการซื้อขายรวม 566 สัญญา แบ่งเป็นคอลออปชั่น จำนวน 102 สัญญา และพุทออปชั่น จำนวน 464 สัญญา
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET50 Index อยู่ที่ 518.93 จุด บวก 1.09 จุด (+0.21%)
น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า SET50 Index วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ลงไปต่ำสุดที่ 513-514 จุด ไม่ผ่านแนวทดสอบที่ 520 จุด นักลงทุนส่วนใหญ่ยังรอปัจจัยการ เมืองเป็นหลัก และปัจจัยต่างประเทศก็ดูไม่ดีด้วย โดยยังกังวลเกี่ยวกับรัฐบาลจีน อาจจะมีการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่เกิดอัตราเงินเฟ้อในอัตราที่เร่งเข้ามา
และการเมืองไทยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และระดับความเคลื่อนไหวของการเมืองก็ยังมีลักษณะเข้มงวดมากขึ้น ทำให้นัก ลงทุนส่วนใหญ่กังวล ทำให้มีการเทรดดิ้งช่วงสั้นมากกว่า ส่งผลให้ SET50 แกว่งตัวแคบ
สำหรับสัญญา H10 วันนี้ เกิดดิสเคาน์เทียบกับ SET50 Index สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่มอวว่ายังมี downside risk อยู่
กรอบสำหรับ SET50 Index และ H10 น่าจะยังอยู่ 515-520 จุด เพราะเรื่องเงินปันผลผ่านไปแล้ว ฉะนั้น คนที่ถือ สถานะ long อาจจะไปปิดทำกำไรบริเวณแถวๆ 520 จุดบวกลบ ส่วนคนที่ถือ short หรือหาโอกาสเปิด short คิดว่า ช่วงสั้นคง ไม่เห็นตลาดปรับฐานตลาดหุ้นลงมาแรงๆ
"เรายังเชื่อว่า นักลงทุนบางส่วน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ยังคงให้ความสนใจกับตลาดหุ้นไทย คนที่เข้ามาซื้อค่อน ข้างจะแน่น จึงคิดว่าตลาดช่วงนี้ไม่น่าจะมีการปรับฐานลงแรง แม้ว่าประเด็นการเมืองจะกดดันตลาดหุ้นอยู่ก็ตาม กลยุทธ์ ถ้า ราคาอ่อนตัวมาบริเวณแถวแนวรับ 515 จุด ก็คิดว่าน่าสนใจเปิดสถานะ long ดีกว่าและเป็นเทรดดิ้งในช่วงสั้น 515-520 จุด สำหรับ H10" น.ส.มยุรี กล่าว
ด้านนายคมสันต์ ปรมาภูมิ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า การซื้อขาย Set50 Futures โดยรวมตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยประเด็นหลักเป็นปัจจัยจากต่างประเทศ แม้โดยรวมจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังการ ประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐ แต่นักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับจีน ที่จะมีการปรับเพิ่มการกันสำรองการปล่อยสิน เชื่อของสถาบันการเงิน ทำให้แรงซื้อในตลาดภูมิภาคชะลอตัว
ประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปคือการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)คืนวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ย และ fed statement รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มอีกหรือไม่ ส่วนประเด็นในประเทศ จากการชุมนุมทางการเมือง นักลงทุนยังจับตาและติดตามสถานการณ์ต่อไป แม้ขณะนี้จะยังไม่มีเหตุการณ์ รุนแรง
สำหรับทองคำนั้น น.ส.มยุรี มองว่าราคาน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยราคาสปอต อยู่ที่ 1,100-1,110 เหรียญ/ออนซ์ โดยจากประเด็นการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดี ความจำเป็นที่จะลงทุนทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง จากเศรษฐกิจถดถอยก็หมดลง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ในช่วงสั้นน่าจะยังมีทิศทางแกว่งตัวแข็งค่า กดดันราคาทองคำช่วงนี้ underperforme หรือเคลื่อนไหวในกรอบแคบมากกว่า
"สัญญา GFJ10 แนะนำให้เทรดดิ้งในกรอบมากกว่า และไม่ให้ถือสถานะข้ามวัน ในกรอบ 17,250 - 17,350 บาท และเป็นการเทรดระหว่างวันเท่านั้น" น.ส.มยุรี กล่าว