ทริสฯ ให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ TMB วงเงิน 8 พันลบ.ที่ระดับ A

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 16, 2010 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารทหารไทย (TMB) ที่ระดับ A+ และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันที่ระดับ A และหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารที่ระดับ BBB+ และยังประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 8,000 ล้านบาทของธนาคารที่ระดับ A

ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตยังคง Stable หรือ คงที่

อันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ด้อยสิทธิสะท้อนถึงคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและการสนับสนุนที่ต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคาร ING Bank N.V. ซึ่งมีฐานะเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์เป็นผู้มีอำนาจในการบริหารกิจการของธนาคารและช่วยเสริมสถานะทางการเงินและการดำเนินงานของธนาคารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ธนาคารได้รับประโยชน์ด้านความรู้ความชำนาญจาก ING Bank เกี่ยวกับระบบบริหารความเสี่ยง รวมทั้งด้านจุดแข็งของธุรกิจธนาคารเพื่อรายย่อย ประกันภัย และบริการด้านบริหารสินทรัพย์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการเติบโตของธนาคารในอนาคต รวมทั้งธนาคารยังมีเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับผลขาดทุนที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้จากความเสี่ยงในอนาคตเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าวได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารยังมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระดับค่อนข้างสูง ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรที่ยังอ่อนแอ และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศและภาวะการเงินทั่วโลกซึ่งอาจจำกัดการขยายธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร

อันดับเครดิต BBB+ ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารสะท้อนถึงความด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการเลื่อนชำระดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว

หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนเป็นหุ้นกู้ที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระคืน ไม่สะสมผลตอบแทน มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และสามารถไถ่ถอนโดยธนาคารได้หลังจาก 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสาร และไถ่ถอนได้ทุกๆ 6 เดือนหลังจากนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทนี้จะได้รับการชำระเงินในลำดับถัดจากผู้ฝากเงิน ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีประกัน และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร โดยธนาคารจะไม่มีภาระผูกพันในการจ่ายดอกเบี้ยในกรณีที่ธนาคารมีผลขาดทุนในรอบบัญชีก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย ทั้งนี้ การไม่จ่ายดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคาร

ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ คงที่ สะท้อนถึงความคาดหมายว่าธนาคารจะปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรและสภาพคล่องให้ดีขึ้นได้ในระยะปานกลาง การสนับสนุนจาก ING Bank คาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบและระเบียบปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างรายได้ที่แน่นอนให้แก่ธนาคารในระยะปานกลาง

อนึ่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TMB ณ เดือน ธ.ค.52 ประกอบด้วยกลุ่ม ING Bank ถือหุ้นสัดส่วน 30.1% และกระทรวงการคลัง ถือหุ้นในสัดส่วน 26.1%

การดำเนินงานของธนาคารได้ผ่านระยะที่ 1 ซึ่งเป็นช่วงของการปรับโครงสร้างองค์กรระหว่างปี 51-52 และปัจจุบันกำลังอยู่ในระยะที่ 2 ระหว่างปี 53-54 ซึ่งเป็นช่วงที่เน้นความต้องการของลูกค้า(Customer Centric) โดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ส่วนภารกิจสำคัญคือการสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการและปฎิบัติการ การขยายผลิตภัณฑ์ และการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เครือข่ายสาขาและช่องทางธุรกิจ ในขณะที่การดำเนินงานทั้งในด้านธุรกิจและการเงินให้บรรลุตามแผนนั้นยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน พัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ รวมทั้งขยายฐานสินทรัพย์ที่สร้างกำไร และตรึงฐานเงินทุนให้คงที่ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ