นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS)เปิดเผยว่า ยอดขายในไตรมาส 1/53 คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แม้จะมีปัจจัยการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่กลับพบว่าในพื้นที่ต่างจังหวัดมียอดขายที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ สะท้อนจากยอดขายในสาขาต่างจังหวัดของ ROBINS ปรับตัวดีขึ้น โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-ก.พ.53)ยอดขายโดยรวมเติบโตจากไตรมาส 4/52 ถึง 10% แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อของประชาชนยังมีอยู่
นายปรีชา กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายต่างจังหวัดที่เติบโตได้ดี สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่จะเปิดสาขาเพิ่ม 4 สาขาในต่างจังหวัดช่วงปี 53-54 ใช้งบลงทุนประมาณ 2,400 ล้านบาท โดยจะเปิดสาขาที่ จ.ตรัง ในช่วงปลายปี 53 ใช้เงินลงทุน 650 ล้านบาท ส่วนอีก 3 สาขา คือ ที่ จ.เชียงราย จ.พิษณุโลก และสาขาพระราม 9 จะเปิดให้บริการในปี 54
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการสรุปแผนการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 สาขา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในปี 55-56 คาดว่าภายในกลางปี 53 น่าจะมีข้อสรุป โดยจะเป็นการเปิดสาขาทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด
นายปรีชา กล่าวอีกว่า นอกจากการขยายสาขาเพิ่มเติมแล้ว บริษัทยังมีแผนนำแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาเปิดตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำนวน 10 แบรนด์ เป็นแผนเปิดแบรนด์ใหม่ต่อเนื่องจากปี 52 ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง เครื่องประดับ ซึ่งในปีนี้บริษัทจะใช้งบการตลาดกว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น
"ผมรู้สึกดีขึ้น เพราะหากเศรษฐกิจโต 3-4% กำลังซื้อก็จะโต 6-7% ส่วนการเมืองผมว่าเป็นสิ่งที่ประเมินยาก แต่ในใจลึกๆ เชื่อว่าจะจบได้ภายในไตรมาสนี้ ซึ่งเรากลับมียอดขายที่เพิ่มขึ้นในต่างจังหวัด เพราะคนหนีการเมืองออกต่างจังหวัดกัน"นายปรีชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าภายใต้สถานการณ์ที่ยังมีปัญหาการเมืองในประเทศ แต่บริษัทยังรักษาการเติบโตของยอดขายในปี 53 ไว้ที่ 12% จากปี 52 ที่มียอดขาย 1.28 หมื่นล้านบาท