นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ ประธานกรรมการ บมจ.อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ (ETG) เปิดเผยว่าในปี 53 ตั้งเป้ามีรายได้เทียบเท่ากับปี 51 ที่มีรายได้ 1,200 ล้านบาทจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น จากปี 52 ที่มีรายได้ 854 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ก็จะมากกว่าปีก่อนที่มีกำไร 15 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 15-20% จากปี 52 อยู่ที่ 11% โดยในไตรมาสอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าอยู่ที่ 11% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับไตรมาส 4/52 เพราะปริมาณขนส่งใกล้เคียงกัน ดังนั้น ในไตรมาส 2/53 บริษัทจะพยายามให้มาร์จินสูงขึ้นด้วยการเจรจาการค่าบริการให้ได้ราคาสูงขึ้นและการจัดการภายใน ประกอบกับคาดว่าปริมาณการขนส่งจะเพิ่มขึ้นกลับไปในระดับปกติ
ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้พบว่าปริมาณการขนส่งดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52 ที่ฟื้นตัวชัดเจนแล้ว เพราะมีลูกค้าเดิมกลับมา และลูกค้าบางรายมีปริมาณขนส่งที่เพิ่มขึ้น เช่น บริษัทบริดสโตน และ บริษัทคาวาซากิ ที่ ที่ย้ายฐานการผลิตมาไทยได้ส่งผลดีต่อบริษัท ทำให้จำนวนรถขนส่งไม่เพียงพอ
"จะเห็นว่าอุตฯฟื้นชัดแล้วตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่ปัญหาตอนนี้คือดีมานด์มากกว่าซัพพลาย จำนวนรถที่จะขนส่งเริ่มไม่เพียงพอขณะที่ผู้ประกอบการก็ไม่กล้าซื้อรถ ทำให้ซัพพลายรถสู้ดีมานด์ไม่ได้ ผู้ประกอบการก็เริ่มปรับราคาขึ้น แต่ก็ได้ไม่มากเท่ากับ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ของเราก็คง maintainลูกค้าที่อุ้มชูเรา ตอนที่วิกฤตลูกค้าก็ช่วยเราซึ่งการที่เราจะไปขอขึ้นราคาคงไม่ได้มาก แต่การที่วอลุ่มและปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นก็จะน่าดีในแง่ของรายได้" นายพูนศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทจะพยายาหาลูกค้าต่างประเทศที่เป็นแดนสนธยาให้มากขึ้น เช่น ลาว จีนใต้ เขมร หรือเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่จะได้มาร์จินที่สูงกว่าในประเทศ เนื่องจากยังไม่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และติดเรื่องกฎระเบียบต่าง ๆ ขณะที่ในประเทศการแข่งขันจะสูงกว่า โดยบริษัทตั้งเป้าหมายอีก 3 ปีจะทำให้รายได้จากการขนส่งต่างประเทศเพิ่มเป็นหลักร้อยล้านบาท หรือ 30% จากปัจจุบันมีรายได้แค่หลักสิบล้านบาท
และในปี 53 บริษัทได้ตั้งบลงทุน 30-50 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในธุรกิจขนส่งพลังงาน จัดซื้อแทงก์ และจัดสรรงบลงทุนส่วนหนึ่งเพื่อซื้อรถขนส่งเพิ่ม ส่วนจะเป็นภายในปีนี้หรือไม่ ขอติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง แม้ระยะสั้นอาจจะยังไม่มีผลกระทบต่อการขนส่ง แต่หากเหตุการณ์ยืดเยื้อยอมรับว่ามีผลกระทบอย่างแน่นอน