นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหาร ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 38 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลกรุงเทพ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 52 สามารถสร้างรายได้ถึง 7,000 ล้านบาท แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองจะไม่เอื้ออำนวยในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าในปี 53 นี้จะมีอัตราการเติบโต 7-10%
โรงพยาบาลยังเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของโรงพยาบาลในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นศักยภาพและความสามารถของแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ ความทันสมัยของเครื่องมือแพทย์ เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในระดับสากล เพื่อรองรับผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีสัดส่วนของผู้ป่วยแบ่งเป็นชาวไทย 60% และชาวต่างชาติ 40% ได้แก่ ชาวตะวันออกกลาง เอเชีย ยุโรปและเอเชียแปซิฟิกตามลำดับ
นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังให้ความสำคัญกับการจัดหาอุปกรณ์ทางแพทย์เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยของผู้รับบริการ และประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาล โดยในปี 2553 ได้ลงทุนประมาณ 375 ล้านบาทสำหรับเครื่องมือการแพทย์ อาทิ เครื่องถ่ายภาพกระดูกสันหลังและบริเวณข้างเคียง (Intra-operative CT Scanner) เครื่องนำทางผ่าตัดกระดูกสันหลังและสมองด้วยคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุด (Surgical Navigator) เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง 256-slice CT scan สำหรับตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและเครื่องคาร์โตซาวน์ (CartoSound) นวัตกรรมการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติเครื่องเดียวในประเทศไทย เป็นต้น
ในส่วนของศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง ได้เตรียมเทคโนโลยีและบริการใหม่เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยในด้านต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาลวัฒโนสถ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งครบวงจรได้เปิดศูนย์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดและไขกระดูก (Bangkok Blood and Marrow Stem Cell Transplant Unit) เพื่อช่วยเหลือเด็กซึ่งป่วยด้วยโรคโลหิตจางเบต้าธาลัสซีเมีย โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบัน Barbara Ann Karmanos Cancer Institute ใน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถาบันการแพทย์รักษาโรคมะเร็งชั้นนำ
สำหรับโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ ตรวจรักษาด้วยเทคนิคใหม่ช่วยให้ผู้เข้ารับบริการไม่จำเป็นต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล โดยผ่านกระบวนการเพียง 2 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูงแบบสี่มิติ (4-D Heart Screening Echo) เพื่อตรวจการทำงานของห้องหัวใจทั้ง 4 ห้อง การบีบตัว และรูรั่วของผนังหัวใจ และกระบวนการตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (256 —slice CT Scan) ซึ่งจะทำให้ทราบถึงสุขภาพหัวใจโดยรวม
ส่วนสถาบันโรคกระดูกสันหลังกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นเพียงแห่งเดียวที่เน้นการรักษาแบบองค์รวม (Holistic approach) ซึ่งประกอบด้วยทีมแพทย์สหสาขาผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ โดยจะวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น การฉีดยาบล็อคเส้นประสาทการระงับอาการปวดจากกระดูกทับเส้น (Interventional Selective Nerve Root Block) การฉีดซีเมนต์ยึดกระดูกเพื่อรักษาอาการกระดูกสันหลังยุบ (Vertebroplasty) การทำกายภาพบำบัด ฯลฯ อันเป็นวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด (Non-Surgical treatment) พร้อมเผยวิสัยทัศน์ว่าศูนย์มุ่งเป็นสถาบันรักษาโรคกระดูกสันหลังที่ดีที่สุดในเอเชีย
ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู มุ่งเน้นให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติอีกครั้ง และป้องกันมิให้กลับมาเป็นโรคเดิม โดยมีนักกายภาพบำบัดคอยดูแลผู้ป่วยในแต่ละด้าน ได้แก่ ปอด สมอง หัวใจ วิเคราะห์การเดิน ธาราบำบัด กิจกรรมบำบัด และบำบัดลดปวด เป็นต้น โรงพยาบาลกรุงเทพเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลในเครือ BGH ซึ่งจากการเปิดเผยงบการเงินประจำปี 52 BGH มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 21,945 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปี 51