บมจ.ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง(ECL) ตั้งเป้ายอดสินเชื่อรถยนต์มือสองเติบโต 50% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดรถยนต์มือสองฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยสินเชื่อรถยนต์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดปล่อยสินเชื่อดังกล่าวราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันให้ยอดรายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นในระดับใกล้เคียงกันที่ 50% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 120 ล้านบาท และกำไรก็น่าจะสูงขึ้นจาก 82 ล้านบาทในปีก่อนเช่นกัน
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมเม็ดเงินราว 200 ล้านบาท เพื่อร่วมมือกับ"ยูเนี่ยนออโต้"เพื่อปล่อยสินเชื่อรถยนต์นำเข้า ทั้งรถสปอร์ตขนาดกลาง และรถครอบครัว
นายดนุชา วีระพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปี 53 ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ทั้งรถใหม่และรถมือสองเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อนที่ 400 ล้านบาท โดยพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสองส่วนใหญ่ลูกค้าอยู่ใน กทม.ระดับราคารถอยู่ที่ 5-7 แสนบาทต่อคัน ตั้งแต่เดือนม.ค.นี้สัญญาณดีขึ้นมาก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น เศรษฐกิจดี ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
บริษัทยังสามารถจัดการหนี้เสียได้ดีมาก โดยขณะนี้มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ไม่ถึง 1-2% เนื่องจากมีการเน้นนโยบายคุมคุณภาพรถ และลูกค้า โดยมีรถยึดพร้อมขายไม่ถึง 10 คัน พอร์ตเช่าซื้อตอนนี้มี 6-7 พันคันสำหรับรถยนต์มือสอง
"สัญญาณปีนี้ยอดขายรถยนต์ใหม่โต 17% yoy ส่วนการเมืองไม่มีผลต่อการปล่อยสินเชื่อ หรือมีผลน้อยมากเพราะรถมือสองเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดแล้ว ช่วงภาวะเศรษฐกิจดีอัตราการโตของรถใหม่จะดีกว่ามือ 2 หรือไปในทางเดียวกัน แต่ถ้าเศรษฐกิจชะลอรถมือสองจะไม่ตกต่ำมากเหมือนรถใหม่" นายดนุชา กล่าว
ส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ คือ บริษัท ยูเนี่ยนออโต้ ซึ่งเป็นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งรถที่นำเข้าจะเป็นสปอร์ตขนาดกลาง หรือ รถครอบครัว ระดับราคาคันละ 3-7 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในไตรมาส 2/53 นี้ หรือช่วงต้นเม.ย.นี้ เปิดสาขาแรกที่พหลโยธิน 13
เงินที่จะนำมาลงทุนใหม่และรองรับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองนั้น ส่วนหนึ่งจะมาจากการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)ที่บริษัทจะออกให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 205 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ กำหนดราคาใช้สิทธิ 1 บาท โดยจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น 29 เม.ย.นี้ คาดว่าวอร์แรนต์จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในไตรมาส 2/53
นายอนุชา กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 53 น่าจะเติบโตในอัตราใกล้เคียง 50% จากปี 52 ที่มีรายได้ 120 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิน่าจะสูงกว่า 52 ที่มีกำไร 28 ล้านบาท