RATCH ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนไม่ต่ำกว่า 100เมกะวัตต์ภายในปี59

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 18, 2010 14:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายภายในปี 59 ที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนไม่น้อยกว่า 100 เมกะวัตต์ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 53 คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้ 50 เมกะวัตต์ขึ้นไป โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้และผลกำไรในปี 54 โดยเริ่มจากโครงการพลังงานลม

"ปีนี้เราน่าจะทำได้เร็วกว่าที่เราตั้งเป้าไว้ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมีรีเทิร์นไม่สูงมากนัก ขึ้นอยู่กับ adder(ราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่ม)ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน" นายนพพล กล่าว

นายนพพล กล่าวว่า โครงการพลังงานทดแทนที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นในปีนี้ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาหาพื้นที่สร้างในภาคกลางหรือภาคอีสาน ขณะเดียวกันจะเริ่มเจรจาหาผู้ร่วมลงทุน และผู้พัฒนาโครงการ โดยเชื่อว่าภายในปีนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้ไม่ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ และปัจจุบัน กระทรวงพลังงานให้ adder 8 บาท/หน่วยผลิต

นอกจากนี้ ยังมีโครงการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล โดยใช้พืชผลการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง ขณะนี้ ได้พิจารณาพื้นที่ที่อาจอยู่ในภาคอีสาน โดยในปีนี้คาดว่าจะได้จัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการได้

ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เริ่มก่อสร้างในกลางปี 53 และคาดว่าแล้วจะทำรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท/ปี ซึ่งรวม adder 3.50 บาท/หน่วยผลิต โดยโครงการนี้ได้มีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 25 ปี ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัท ซัสเทน เอเบล เอ็นเนอยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่ง RATCH ถือหุ้น 30%

และบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศ 2-3 ราย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยมีขนาดโรงไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ขั้นไป ใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ คาดว่าภายในกลางปี 53 น่าจะเห็นสัญญาณความเป็นไปได้หรือความชัดเจนในการซื้อกิจการ อย่างน้อยบริษัทต้องการเข้าไปถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% โดยได้จัดเตรียมเงินทุน 5,000-6,000 ล้านบาท และปัจจุบันมีกระแสเงินสด 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มองว่ารายได้ของบริษัทในปี 54 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการน้ำงึม 2 ที่บริษัทถือหุ้น 25% จะเริ่มมีรายได้ในปลายปี 53 รวมถึงโครงการที่เข้าซื้อกิจการในต่างประเทศที่จะเริ่มเห็นในปี 54 ส่วนโครงการหงสา ที่บริษัทถือหุ้น 40% มีขนาดผลิตไฟฟ้า 1,800 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในไตรมาส 1/53 หรือ ต้นไตรมาส 2/53 และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 58 และโครงการน้ำงึม 3 ที่บริษัทถือหุ้น 25% ขนาดผลิตไฟฟ้า 615 เมกะวัตต์ คาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 60


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ