นายชวิต แสงอุดมเลิศ หัวหน้าส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)กล่าวว่า บริษัทประเมินว่าการลงทุนโครงข่ายระบบ 3G จะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 3.6 หมื่นล้านบาทในระยะ 3-4 ปี โดยในช่วง 2 ปีแรกอาจจะใช้เงินลงทุนปีละ 8 พันล้าบาทถึง 1 หมื่นล้านบาท ส่วนปีที่ 3-4 จะใช้เงินลงทุนปีละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
บริษัทไม่มีความกังวลเรื่องงบลงทุน เนื่องจากขณะนี้มีกระแสเงินสดจำนวนมากอยู่แล้ว และในปี 53 ก็เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นจากผลของนโยบายลดค่าใช้จ่าย ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็จะเพิ่มรายได้มากขึ้นด้วย
นายชวิต คาดว่า ในปี 53 บริษัทจะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 7-9% โดยเฉพาะจากการขายโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งบริษัทได้ทำการตลาดทั้งโทรศัพท์แบล็คเบอรี่และไอโฟน คาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาอย่างชัดเจนในปีนี้ และในอนาคตก็จะมีการหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มาเพิ่มมากขึ้น ส่วนรายได้จากค่าบริการปีนี้น่าจะโต 3-5% ตามจีดีพี
ทั้งนี้ รายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 53 คาดว่าจะออกมาเติบโตต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นตามฤดูกาลที่ช่วงต้นปีจะดีกว่าไตรมาสอื่น ๆ อยู่แล้ว ขณะที่ยอดขายไอโฟนที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อนสูงกว่าคาด โดยมียอดขายเข้ามาแล้วกว่า 3 พันเครื่อง
"รายได้รวมยังโตต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว และไตรมาส 1/53 เป็นไตรมาสที่ดีอยู่แล้ว ทั้งปียังดีตามที่ทั้งเทศกาลต่างๆมาก คนโทรหากันเยอะ รวมทั้งสมาร์ทโฟนที่ทำตลาดจริงจัง ไอโฟนที่เพิ่งเปิดตัวขายไปกว่า 3 พันเครื่องได้รับการตอบรับที่ดีจากงานเปิดตัวที่ผ่านมา"นายชวิต กล่าว
นายชวิต กล่าวว่า บริษัทมีแผนรองรับการลงทุนโดยเตรียมการขอวงเงินสำหรับออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อรองรับการลงทุนโครงข่าย 3G ที่จะเกิดขึ้นก่อน ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ยังไม่มีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน แต่เป็นการขออนุมัติไว้ก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงิน
ส่วนการที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)จะลดค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (interconnection charge:IC) ลงเหลือ 0.50 บาท จาก 1 บาท คาดว่าจะมีผลต่อรายได้ที่อาจได้รับลดลง แต่ขณะเดียวกันด้านรายจ่ายก็จะลดลงด้วย