ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 2.01 จุดหลังอังกฤษเผยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 19, 2010 07:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่าหนี้สาธารณะของอังกฤษพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ถูกเทขายอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ รวมถึงหุ้นแกลกโซสมิธไคลน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 2.01 จุด หรือ 0.04% แตะที่ระดับ 5,642.62 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,619.17-5,660.99 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเผย หนี้ภาคสาธารณะของอังกฤษไต่ขึ้นเหนือระดับ 60% ของจีดีพีแล้ว เนื่องจากหน่วยงานของรัฐกู้ยืมเงินเพิ่มอีก 1.24 หมื่นล้านปอนด์ (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 8.766 พันล้านปอนด์ในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว

ตัวเลขการกู้ยืมในเดือนก.พ.ทำให้หนี้สินสุทธิของรัฐบาลอังกฤษเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.577 แสนล้านปอนด์ ซึ่งคิดเป็น 60.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และเพิ่มขึ้นจากระดับ 59.9% ในเดือนม.ค. และจากระดับ 50.5% ในเดือนก.พ.ปีก่อน

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง นำโดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดลบ 1.8% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 2.8% และหุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดดิ่งลง 3.6%

ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเช่นกัน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้ฉุดราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกดิ่งลง โดยหุ้นเวแดนตาปิดลบ 1.7% หุ้นเฟรสนิลโลปิดร่วง 2% หุ้นคาซัคมิสปิดลบ 2.2% และหุ้นอันโตฟากัสตาปิดร่วง 2.4%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ทะยานขึ้นและช่วยพยุงดัชนี FTSE 100 ไม่ให้ปิดลบมากนัก โดยหุ้นแกลกโซสมิธไคลน์ปิดพุ่ง 3.9% หุ้นแอสตราเซเนกาปิดบวก 0.5% และหุ้นไชร์ปิดบวก 1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ