นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (SITHAI) กล่าวว่า บริษัทเตรียมทบทวนปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 18-20% โดยจะประเมินอีกครั้งในช่วงไตรมาส 2/53 หลังจากผลงานไตรมาส 1/53 รายได้น่าจะเติบโตถึง 50% และคาดว่ากำไรสุทธิทั้งปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อน ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดไว้ไม่ต่ำกว่า 21% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 20%
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 1/53 จะอยู่ที่ประมาณ 1.35 พันล้านบาท เติบโต 50% จากไตรมาสเดียวกับปีก่อน เนื่องจากยอดขายในประเทศปรับดีขึ้น โดยเฉพาะในในต่างจังหวัดที่ได้รับผลดีจากราคาสินค้าเกษตรสูงสูง รวมทั้งการส่งออกเมลามีนและพลาสติกก็เติบโตขึ้นด้วย
แต่ปัญหาของบริษัทขณะนี้คือไม่สามารถผลิตได้ทันตามคำสั่งซื้อ บางครั้งต้องเลื่อนการส่งออกไป 4-5 เดือน โดยเฉพาะสินค้าเมลามีน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทได้ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม 70 กว่าเครื่อง คาดว่าจะลดปัญหาตรงนี้ได้
นอกจากนี้ บริษัทปรับเผนงานในอินเดียจากการหาซื้อที่ดินและสร้างโรงงานใหม่ เปลี่ยนเป็นเช่าโรงงานสำเร็จรูป เพื่อทำการผลิตให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 1/54 จากแผนเดิมจะเริ่มผลิตในไตรมาส 3/54 หรือไตรมาส 4/54 เนื่องจากตลาดอินเดียเติบโตเร็วมาก และการปรับแผนงานยังสามารถประหยัดงบลงทุนได้กว่า 100 ล้านบาท สินค้าล็อตแรก เป็นภาชนะเมลามีน
"โอกาสที่จะเห็นการเติบโตยอดขายในอินเดียมีสูง เพราะความต้องการอุปโภคบริโภคมาแรงมาก ตั้งแต่เราไปตั้งออฟฟิศที่นิวเดลีเมื่อปลายปี ดีมานด์เพิ่มขึ้นเดือนต่อเดือนขึ้นเร็วมาก จึงคิดว่าไปซื้อโรงงานสำเร็จรูปและผลิตเลยจะดีกว่า" นายสนั่น กล่าว
นายสนั่น กล่าวว่า บริษัทยังเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าเมลามีนราว 5% ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะที่ส่งออกในแถบเอเชียและจำหน่ายในประเทศ สาเหตุมาจากเงินบาทแข็งค่า ส่วนสินค้าพลาสติกจะรอดูค่าเงินและวัตถุดิบ คาดว่าจะปรับขึ้น 5-10% แต่ในตลาดยุโรปและสหรัฐ ยังน่าจะปรับขึ้นราคาได้ยาก เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดีมากนัก
ในปี 54 บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มตลาดส่งออกเป็น 122 ประเทศ จากปีนี้ส่งออก 100 ประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นตลาดประเทศเกิดใหม่ และ ตลาดรัสเซีย
"ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องอัตราเลกเปลี่ยน มองว่าเป็นความเสี่ยง ถึงเม้แบงก์ชาติจะดูแลแต่ห่วงว่าถ้าเงินบาทลงมาถึง 30 บาท/ดอลลาร์จะทำอย่างไร ส่งออกก็จะมีความเสี่ยงสูง"นายสนั่น กล่าว