(เพิ่มเติม) PTTCH คาดรายได้-กำไร Q1/53 ต่ำกว่า Q4/52 จากผลกระทบปิดซ่อมบำรุงรง.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 22, 2010 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางพันธ์ทิพย์ อึ้งผาสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์และกิจการต่างประเทศ บมจ.ปตท.เคมีเคิล(PTTCH) คาดว่ารายได้และกำไรของบริษัทในไตรมาส 1/53 จะออกมาต่ำกว่าไตรมาส 4/52 และงวดเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่บริษัทปิดซ่อมบำรุงโรงงาน I-1 เป็นเวลา 33 วัน ทำให้ปริมาณการผลิตและปริมาณขายลดลง

แม้ว่าสเปรดราคาผลิตภัณฑ์ในช่วงนี้ยังอยู่ในระดับสูง โดยเอทีลีนมีสเปรดสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และแนวโน้มไตรมาส 2/53 ยังดีอยู่ เพราะซัพพลายใหม่จากทั่วโลกยังทยอยออกมาไม่มาก และปกติไตรมาส 2/53 จะเป็นไตรมาสที่ดีของธุรกิจปิโตรเคมี

"ตอนนี้แม้ว่า สเปรดผลิตภัณฑ์ Q1/53 ยังดีอยู่ แต่บริษัทมีแผน shut down โรง I-1 ในช่วงนี้ ทำให้รายได้และกำไรอ่อนตัวลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส 4/52"นางพันธ์ทิพย์ กล่าว

นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTCH กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1/53 ส่วนต่างราคา(สเปรด)เม็ดพลาสติกอยู่ในระดับดี โดยปัจจุบันราคาเม็ดพลาสติกอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ นาฟทามีราคาสูงขึ้นเช่นกันที่ 800 ดอลลาร์/ตัน ทำให้สเปรดอยู่ที่ 500 ดอลลาร์/ตัน ใกล้เคียงไตรมาส 4/52

ส่วนราคาเอธิลีน ยังอยู่ในระดับสูง ที่ประมาณ 1,100 ดอลลาร์/ตัน เนื่องจากราคาน้ำมันยังสูง และซัพพลายใหม่ในประเทศตะวันออกกลางออกมาสู่ตลาดค่อนข้างน้อย ไม่ได้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและเม็ดพลาสติกยังทรงตัวในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1/53 บริษัทได้ปิดซ่อมบำรุงโรงแครกเกอร์ I-1 ที่มีกำลังการผลิต 5 แสนตัน/ปี ทำให้ปริมาณการผลิตลดลง ส่วนโรงงานแครเกอร์ I 4-1 จะปิดซ่อมบำรุงในกลางปี 53 ซึ่งมีกำลังการผลิต 7 แสนตัน/ปี

นายวีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีเป้าหมายการมุ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเคมีและเคมีภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการแบบครบวงจร โดยให้ความสำคัญต่อนวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทมีแผนใช้งบลงทุนสำหรับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในปีนี้ประมาณ 1%ของรายได้ หรือประมาณ 800 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 2%ของรายได้

วันนี้บริษัทเปิดศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ขนาดใหญ่ของประเทศ รวมทั้งได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับพันธมิตร 4 ราย ทั้งหน่วยงาน สถาบันในและต่างประเทศ ได้แก่ Solix Biofuels Inc. , Microalgal Biotechnology Laboratory สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

"ความร่วมมือกับ 4 หน่วยงาน เพื่อที่จะช่วยผลิตนวัตกรรม เทคโนโลยี ซึ่งเราคิดเองคนเดียวไม่สำเร็จ และในอนาคตยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ อีก การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งหมายถึงจะเห็นผลในอีก 10 ปีข้างหน้า" นายวีรศักดิ์

ทั้งนี้ บริษัทใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาทในการสร้างอาคารศูนย์วิจัย และเครื่องมือต่างๆ และจะใช้เพิ่มงบลงทุนเป็น 1,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมงบประจำปี ที่บริษัทจะลงทุนอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ