นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) เปิดเผยว่าในปี 53 คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้ที่ตั้งเป้าเติบโต 15% เนื่องจากมี backlog อยู่แล้ว และช่วงครึ่งปีแรก บริษัทจะเข้าประมูลงานภาครัฐมูลค่า 500-600 ล้านบาท ซึ่งปกติบริษัทจะได้รับงานกว่า 50%
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)ในปีนี้ คาดว่าจะปรับสูงขึ้นจากปี 52 ที่อยู่ในระดับ 19% เพิ่มเป็น 20-25% เนื่องจากต้นทุนดำเนินธุรกิจลดลง และบริษัทหันมาการขายบริการ IT และแพ็คเกจมากขึ้น ประกอบกับในปีนี้ลูกค้ามีงบประมาณในการลงทุนด้านไอทีมากขึ้น ทำให้มีมาร์จิ้นสูงขึ้น
ในไตรมาส 1/53 คาดว่าจะมีรายได้ 550-600 ล้านบาทใกล้เคียงกับไตรมาส 4/52 โดยขณะนี้มีการรับรู้รายได้แล้ว 530-540 ล้านบาท ซึ่งช่วงที่เหลือของเดือน มี.ค.553 น่าจะทำรายได้ตามเป้าหมาย ขณะที่แนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/53 ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ หากสถานการณ์การเมืองไม่รุนแรง เชื่อว่าธุรกิจเดินหน้าได้ต่อเนื่อง
นายศิริวัฒน์ มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้คงไม่น่าเลวร้ายกว่าปีที่แล้ว แต่ตลาดไอทียังกลับไม่เข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะหันไปรุกอุตสาหกรรมใหม่ๆ มากขึ้น เช่น ยูทีลีตี้แบงก์ จากเดิมที่เน้นอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่กลับมาเติบโตเหมือนเดิม ขณะที่บริษัทได้จัดงบลงทุนในปีนี้ จำนวน 20-30 ล้านบาทในการพัฒนาบริการและแพ็คเกจ
"มองปีนี้ไม่น่าเลวร้ายกว่าปีที่แล้ว แต่ปีที่แล้วเรายังคอนโทรลได้ ขยายมาร์เก็ตแชร์ได้ เพียงแต่ความสามารถทำกำไร drop ลง 30% แต่เป็นที่เข้าใจได้เพราะลูกค้ามีเงินน้อย แต่ปีนี้ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นแล้ว เศรษฐกิจน่าจะกลับมาพอสมควร ถ้าเศรษฐกิจดีลูกค้ามีกำไร เราก็ดีด้วย" นายศิริวัฒน์ กล่าว