ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 43.91 จุดหลังสหรัฐผ่านกม.ปฏิรูประบบประกันสุขภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 23, 2010 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และกลุ่มผู้ประกอบการโรงพยาบาล หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจะมีธนาคารกลางประเทศอื่นๆปรับขึ้นดอกเบี้ยมาตามาด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 43.91 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 10,785.89 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 5.91 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 1,165.81 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 20.99 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 2,395.40 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 7.93 พันล้านหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น โดยแรงซื้อกระจุกตัวอยู่ในหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และกลุ่มผู้ประกอบการโรงพยาบาล หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพด้วยคะแนนเสียง 219 ต่อ 212 เสียง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพฉบับนี้ระบุถึงการขยายสิทธิประโยชน์ด้านการประกันสังคมที่ครอบคลุมถึงชาวอเมริกันที่มีฐานะยากจน และจะมีการเรียกเก็บภาษีสำหรับคนรวย ตลอดจนห้ามมิให้บริษัทประกันปฏิเสธการทำประกันสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ออกมาขานรับสภาผู้แทนราษฎรที่มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ โดยเขาเชื่อมั่นว่ากฎหมายฉบับนี้จะเอื้อให้ชาวอเมริกันมีความปลอดภัยและมั่นคงในชีวิตมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนและดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องปัญหาด้านการเงินของกรีซและข่าวการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายของธนาคารกลางอินเดีย โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (reverse repurchase rate) 0.25% เป็น 3.5% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repurchase rate) เป็น 5% จากระดับ 4.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนหน้า เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อ

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินของกรีซเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยกับสถานีวิทยุดอยช์แลนด์ฟังค์ของเยอรมนีว่า กรีซยังไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านการเงิน และผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ไม่ควรนำประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซเข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดอียูที่เมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ในวันพฤหัสบดีนี้

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการโรงพยาบาลทะยานขึ้น โดยหุ้นเทเน็ท เฮลธ์แคร์ คอร์ป ปิดบวก 9% ขณะที่หุ้นไฟเซอร์ในกลุ่มเวชภัณฑ์ปิดพุ่ง 24 เซนต์ ปิดที่ 17.15 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ