ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าการที่ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศอื่นๆในเอเชีย โดยเฉพาะจีน ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามด้วย อย่างไรก็ตาม นิกเกอิปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากจากการปิดบวกของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าลบ 27.21 จุด หรือ 0.25% แตะที่ 10,797.51 จุด
หุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มก่อสร้าง ร่วงลง แต่หุ้นกลุ่มประมงและป่าไม้ กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มรถยนต์ ดีดตัวขึ้น
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวซบเซาลง หลังจากธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (reverse repurchase rate) 0.25% เป็น 3.5% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (repurchase rate) เป็น 5% จากระดับ 4.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยอีกในเดือนหน้า เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการณ์ด้านการเงินของกรีซ หลังจากกลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันในการให้ความช่วยเหลือกรีซ โดยนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ย้ำว่า ผู้นำกลุ่มอียูไม่ควรนำประเด็นการให้ความช่วยเหลือกรีซเข้าสู่ที่ประชุมสุดยอดอียูที่เมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ในวันพฤหัสบดีนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นโตเกียวได้แรงหนุนจากการปิดบวกของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพด้วยคะแนนเสียง 219 ต่อ 212 เสียง