หุ้น AOT ราคาวิ่งขึ้น 3.23% มาอยู่ที่ 40.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 282.34 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.33 น. โดยเปิดตลาดที่ 39.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 40.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 39.25 บาท
แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) ปรับเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกระแสข่าวที่ระบุว่า ต่างชาติได้ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้น AOT และ THAI เพิ่ม ต่อจากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร
ขณะที่ น.ส.ดาวดี ธีรอภิศักดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ยังคงแนะ"ทยอยสะสม"หุ้น AOT ยังไม่มีการปรับเป้าหมาย เนื่องจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ยังคงไม่มีปัจจัยใหม่ นอกจากเรื่องงบลงทุนที่จะปรับลดลงจาก 7.4 หมื่นล้านบาท เหลือ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อกระแสเงินสดของบริษัท แต่กิมเอ็งยังเห็นว่าแผนการลงทุนของ AOT มักมีการเปลี่ยนแปลงเสมอและต้องขออนุมัติจากกระทรวงการคลังด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่ราคาหุ้นขึ้นเป็นส่วนหนึ่งจากผลประกอบการที่คาดว่างวดไตรมาส 1-2/53 เป็นไฮซีซั่นแม้ช่วง มี.ค.53 จะมีการชุมนุมทางการเมือง ทำให้ตัวเลขผู้ใช้บริการลดลง แต่ช่วงม.ค.-ก.พ.ปีนี้ เติบโตมากน่าจะช่วยชดเชยได้
ด้านบทวิเคราะห์บล.เคจีไอ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น AOT ให้ราคาเป้าหมาย 47.50 บาท/หุ้น โดยประเมินว่าปริมาณผู้โดยสารยังคงโตต่อเนื่องโดยในเดือน มี.ค.ปริมาณผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิยังสูงถึง 1.3 แสนคนต่อวัน(เทียบกับ 1.11 และ 1.39 แสนคนต่อวันในเดือน มี.ค.52 และ ก.พ.53)แต่เราปรับลดกำไรของ AOT ลง 15% เหลือ 2.3 พันล้านบาทในปี 53 เพื่อสะท้อนมาตรการใหม่ในการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการของ AOT และปรับลดงบการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกจากราคาเป้าหมาย งไม่ได้รวมในประมาณการหากมีการพิจารณาการเปิดใช้สองสนามบิน โดยคาดว่าช่วงเดือนพ.ค.จะมีข้อสรุป ทั้งนี้ หากสามารถมีการใช้สองสนามบินจริงจะเป็นปัจจัยบวกต่อ AOT เนื่องจากในปัจจุบันสนามบินดอนเมืองสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2 — 3 ล้านคนต่อปี (เทียบกับความสามารถในการรองรับผู้โดยสารในประเทศรวม 10 ล้านคนต่อปี) และการแผนการขยายสนามบินสุวรรณภูมิในอนาคตจะถูกเลื่อนออกไป ซึ่งเราประเมินได้ปัจจัยบวกจากราคาเป้าหมายอีก 5.00 บาทต่อหุ้น