โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้นบมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น(TTCL)มองเป็นหุ้นรับเหมาที่มีความแข็งแกร่งสูงกว่าหุ้นรับเหมาะขนาดใหญ่ในกลุ่มเดียวกัน ทั้งในแง่ของผลประกอบการและแนวโน้มการได้รับงานใหม่ ขณะที่งานในมือ(backlog)ปัจจุบันมีสูงราว 6 พันล้านบาท
ขณะที่มีข่าวดีล่าสุดได้งานก่อสร้างโรงงานเอทานอลขนาดใหญ่ในเวียดนาม 2 แห่ง มูลค่า 4 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่ม backlog ไปเป็นเกือบหมื่นล้านบาท และยังมีแนวโน้มจะได้งานเพิ่มขึ้นอีกจากที่ได้เข้าประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานใหญ่ในโมร็อคโคที่กำลังรอลุ้น คาดว่าจะรู้ผลในไตรมาส 3/53 น่าจะทำให้งานใหม่ในปีนี้มีโอกาสสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีอย่างมกาในปี 54
ประกอบกับ อัตรากำไรขั้นต้นสูง แถมอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 5% และราคาในปัจจุบันยังมีอัพไซด์ที่ยังพอเล่นได้
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.กิมเอ็ง ซื้อเมื่ออ่อนตัว 6.80 บล.เอเชียพลัส ซื้อ 9.82 บล.ฟิลลิป ซื้อ 7.85 บล.ทิสโก้ ซื้อ 8.10 บล.โกลเบล็ก ซื้อ 9.70
นายสุรศักดิ์ อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า จะมีการปรับราคาเป้าหมายหุ้น TTCL จากเดิมอยู่ที่ 6.80 บาท หลังได้รับข่าวดีที่ได้งานในเวียดนาม แต่ยังคงคำแนะนำ"ซื้อเมื่ออ่นตัว"เพราะต้องรอดูว่างานใหม่ทั้งหมดที่จะได้มีมูลค่าเท่าใดแน่นอน โดยปีที่แล้วมีมูลค่างานคงค้างในมือ 6 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้เกือบทั้งหมด
ประเมินว่ารายได้ของ TTCL ในปี 53 จะอยู่ที่ 11,040 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อน และจะมีกำไรสุทธิที่ 328 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน โดยแนวโน้มการได้งานใหม่ในปีนี้ยังคงสดใส จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
TTCL อยู่ระหว่างเสนอประมูลงานใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวม 3.90 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าจะได้งานใหม่ในปีนี้ราว 1.0 หมื่นล้านบาท และกำลังรองานสำคัญที่โมรอคโคที่อยู่ระหว่างรอประมูล คาดว่าจะทราบผลในช่วงไตรมาส 3/53 หากบริษัทได้งานเกินกว่าที่คาด บล.กิมเอ็งจะมีการทบทวนประมาณการราคาที่เหมาะสม
สำหรับพื้นฐานของตัว TTCL เป็นบริษัทที่มีงบดุลแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มบริษัทก่อสร้าง เนื่องจากไม่มีหนี้เงินกู้(Net cash) โดยบริษัทดำเนินงานด้วยทุนหมุนเวียนที่มีอยู่ และ เนื่องจาก TTCL เป็น EPC contractor ซึ่งงานส่วนใหญ่เป็นการออกแบบทางวิศวกรรม ส่วนงานก่อสร้างจะ subcontract ให้ผู้รับเหมาช่วง ทำให้ TTCL ไม่ต้องมีเครื่องจักรอุปกรณ์จำนวนมากเหมือนผู้รับเหมาทั่วไป
ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุนของ TTCL ลดลงเหลือ 2.35 เท่าในไตรมาส 4/52 จาก 3.23 เท่าในไตรมาสก่อนหน้า และประกาศจ่ายปันผลอีก 0.195 บาท/หุ้นสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 52
นักวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส ระบุว่า TTCL ถือว่าเป็นหุ้นรับเหมาก่อสร้างที่มีความแข็งแกร่งสูง เมื่อเทียบกับหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ด้วยกัน อย่าง STEC, CK และ ITD เนื่องจากรายได้ยังเติบโตต่อเนื่อง อัตรากำไรสูงกว่า 3% รวมทั้งจ่ายปันผลให้ผลตอบแทนสูงกว่า 5% ซึ่งถือว่าดีต่อนักลงทุน
หุ้น TTCL แข็งแกร่งขึ้นอีกหลังได้งานก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอล 2 แห่งในเวียดนาม มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท บวกกับมูลค่างานคงค้างในมืออีก 5.9 พันล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานคงค้างในมือถึง 9.9 พันล้านบาทแล้ว เหลือรอลุ้นงานใหญ่โรงผลิตปุ๋ยที่ประเทศโมรอคโค มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ที่จะทราบผลปลายไตรมาส 2/53-ต้นไตรมาส 3/53 หากได้งานนี้ก็จะเป็นการการันตีรายได้ในปี 54 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทมีการจ่ายปันผลปีละ 5% ต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าปี 53 ยังมีการจ่ายปันผลอีก โดยคาดว่าบริษัทปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท
"บริษัทต้องเร่งประมูลงาน หากได้ในช่วงครึ่งปีแรก จะสามารถรับรู้ได้ทันปีนี้ แต่หากเป็นครึ่งปีหลังก็เก็บไปรับรู้ปีต่อไป ซึ่งปกติสถิตการเข้าประมูลงานของบริษัทจะได้ประมาณ 30% ซึ่งปีนี้เข้าประมูล 4 หมื่นล้านบาท หากได้มากกว่าที่คาดก็จะส่งผลดีในปีต่อๆไป"นักวิเคราะห์ กล่าว
ส่วนนักวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป มองว่า ราคาหุ้น TTCL ยังมีอัพไซต์เหลืออยู่กว่า 15%
การรับงานโรงงานผลิตเอทานอลในเวียดนามมูลค่า 4 พันล้านบาท ทำให้งานใหม่เพิ่มขึ้น จากที่ล่าสุดตั้งแต่ต้นปี TTCL เซ็นสัญญางานใหม่ไปแล้ว 3 งาน มูลค่า 1 พันล้านบาท ซึ่งการพลิกฟื้นของการรับงานใหม่ปีนี้จะทำให้รายได้ของ TTCL ดีขึ้นในปี 54 ที่ประมาณรายได้ไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท จากปี 53 ที่น่าจะจบลงที่ 8.2 พันล้านบาท จากประมาณการเดิมที่คาดหมายไว้ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยเหตุผลหลักของรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในปี 53 มาจากมูลค่างานเซ็นใหม่ปี 52 น้อยกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม TTCL ยังทำตามแผนประมูลโครงการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในต่างประเทศ ทั้งเอเซีย, ยุโรป และ เวียดนาม รวม 7 โครงการมูลค่าเกิน 3 หมื่นล้านบาท รวม ทั้งโครงการโรงปุ๋ยที่โมรอคโคมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ทำให้มองมูลค่างานที่เซ็นใหม่ปีนี้จะเกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท หากรวมการคาดหมายการได้งานใหญ่ที่โมรอคโคจะทำให้ การเซ็นงานใหม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท