ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 102.94 จุด ขานรับ"โอบามา"ลงนามกม.ประกันสุขภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 24, 2010 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ลงนามบังคับใช้กฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไปเมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากสหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างคึกคัก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 102.94 จุด หรือ 0.95% แตะที่ 10,888.83 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 8.36 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 1,174.17 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 19.84 จุด หรือ 0.83% ปิดที่ 2,415.24 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.03 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข่าวประธานาธิบดีโอบามาลงนามบังคับใช้กฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 219 ต่อ 212 ไปเมื่อวันจันทร์ โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ระบุถึงการขยายสิทธิประโยชน์ด้านการประกันสังคมที่ครอบคลุมถึงชาวอเมริกันที่มีฐานะยากจน และจะมีการเรียกเก็บภาษีสำหรับคนรวย ตลอดจนห้ามมิให้บริษัทประกันปฏิเสธการทำประกันสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว

การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่หลังจากโอบามาใช้ความพยายามอย่างหนักในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาในการผลักดันร่างกฎหมายนี้ โดยเอาชื่อเสียงของตนเองเป็นประกัน ถึงแม้ที่ปรึกษาผู้ใกล้ชิดของโอบามาและสมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนแนะนำเขาว่าไม่ควรให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากนัก แต่ควรให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการสร้างงานแทนก็ตาม

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.ลดลงเพียง 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 5.02 ล้านยูนิต ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดิ่งลงสู่ระดับ 5.00 ล้านยูนิต

หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ปิดบวก 4.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของเวลส์ ฟาร์โกปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหุ้นแคทเทอร์ ส่วนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอินเทลปิดบวก 1.9%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.

ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 4 ปีพ.ศ.2552 และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ