ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าเพิ่มขึ้นในวันนี้ ขานรับการทะยานขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในภาคเอกชน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าเพิ่มขึ้น 52.23 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 10,826.38 จุด
หุ้นกลุ่มเบ็ดเตล็ด กลุ่มประมงและป่าไม้ และกลุ่มเหมืองแร่ ดีดตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มน้ำมันและถ่านหิน และกลุ่มอาหาร ร่วงลงในช่วงเช้านี้
มาซูมิ ยามาโมโตะ นักวิเคราะห์จากบริษัท ไดวา ซิเคียวริตีส์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกได้แรงซื้อส่งเข้าหนุนอย่างคึกคัก หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับข่าวประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐลงนามบังคับใช้กฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการภาคเอกชนและเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่าดัชนีนิกเกอิอาจไม่สามารถเคลื่อนตัวผ่านแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 10,900 จุดได้ในระยะนี้ เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินของกรีซ
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ.ทะยานขึ้น 45.3% จากปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 5.13 ล้านล้านเยน หรือ 5.67 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 เดือนเมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากดีมานด์รถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่วนยอดนำเข้าเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 29.5% แตะที่ระดับ 4.48 ล้านล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.พ.ทั้งสิ้น 6.51 แสนล้านเยน