นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 53-55 ซึ่งเป็นแผน 3 ปีของบริษัทฯ ว่า ได้เตรียมพร้อมที่จะขยายฐานการเติบโตในตลาดการบริการ (Services Oriented) อย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับงานวางระบบ (System Integration) ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการด้านบริการ มากขึ้น โดยมูลค่าตลาดด้านบริการไอทีในปัจจุบันมีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
"เราพยายามมองไปข้างหน้า ว่าจะให้ AIT เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงอย่างไร นอกเหนือจากที่เราเป็นพาร์ทเนอร์กับ CISCO SYSTEMS INC. ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านอุปกรณ์เครือข่าย (Networking Solutions) ในระดับโลกแล้ว ทาง AIT เองยังมีแผนงานการพัฒนาธุรกิจในระยะ 3—5 ปี ข้างหน้า เพื่อยกระดับบริษัทฯให้สู่ความเป็นเลิศมากขึ้น"นายศิริพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญใน 2 ส่วน หลักๆ คือ เพิ่มขีดความสามารถและเพิ่มยอดขายในธุรกิจการให้บริการ และรุกสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อ AIT ในระยะยาวอย่างแน่นอน
สำหรับแผนธุรกิจการให้บริการจะครอบคลุมทั้งในเรื่อง Maintenance Services, Managed Services, Training, Smart Service และ Network Design&Consulting ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็จะมุ่งเพิ่มศักยภาพของบุคลากรเพื่อรองรับกับการเติบโตในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการส่งพนักงานไปฝึกอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ล่าสุด AIT ได้ร่วมมือกับสมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทยเป็นผู้ติดตั้งระบบ VDO Distribution over Satellite ซี่งมีผู้ให้บริการกว่า 500 รายทั่วป ระเทศ คิดเป็นฐานสมาชิกรวมกว่า 5 ล้านหลังคาเรือน เพื่อรับเป็นผู้ติดตั้งระบบ VDO Distribution over Satellite ในการให้บริการด้านเทคโนโลยีทั้งหมด
"เรามองเห็นโอกาสที่เราจะต้องทำในเรื่องของแมเนจเซอร์วิส (Managed Services ) ในตลาด Cable VDO โดยที่ลูกค้า(End Users) ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม เราเปลี่ยนหรือเพิ่มอุปกรณ์ให้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยีที่มีอยู่ ยกตัวอย่างเช่น จากเดิมที่ลูกค้า(End Users)เคยดูรายการได้อย่างเดียว ต่อไปอาจจะเชื่อมสัญญาณทางด้านอินเทอร์เน็ตเข้าไปด้วยเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการทางด้านอินเตอร์เน็ตได้บนระบบเครือข่ายcableเดิม
เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการก็มีรายได้เพิ่มขึ้นจากลูกค้ารายนั้นด้วยเทคโนโลยีที่มันทำได้ ส่วนตัวเราก็ไปเก็บรายเดือนกับสมาคมฯ หรือกับโอปอเรเตอร์(Revenue Sharing) แต่ทั้งนี้เราคงต้องปรึกษากับทางสมาคมฯ ก่อนว่ามีนโยบายอย่างไร" นายศิริพงษ์ กล่าว
ดังนั้น การให้บริการด้านไอทีอย่างครบวงจร จึงถือเป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่ของ AIT ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เพื่อที่จะให้เป็นบริษัทฯ ที่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องไปกับกระแสและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจไอที โดยการให้บริการจะเข้ามาเพิ่มรายได้ในอนาคต นอกเหนือจากเป้าหมาย 4 พันล้านบาทที่วางไว้ในปีนี้