นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ (TCIF) ซึ่งเปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 15-23 มี.ค.53 ปรากฎว่ามียอดจองซื้อสูงกว่ามูลค่าโครงการที่มูลค่า 1,960 ล้านบาท โดยนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อจำนวนมาก เนื่องจากเป็นโครงการที่กองทุนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในอาคารสำนักงาน พร้อมที่ดิน ซึ่งเหมาะสมกับนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการจองซื้อที่เกินกว่ามูลค่าโครงการนั้น ทางบริษัทจะดำเนินการคืนเงินให้กับผู้จองซื้อโดยเร็ว หลังจากกองทุนได้ดำเนินการจดทะเบียนกองทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย 2 กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันนี้-30 มี.ค.53 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย ฟอเรน ฟิกซ์อินคัม 12M4 (KTF12M4 )อายุโครงการ 12 เดือน มูลค่า 1,500 ล้านบาท ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.60% ต่อปี และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 4 (KTFF4 )อายุโครงการ 23 เดือน มูลค่า 700 ล้านบาท ได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.30%ต่อปี โดยจ่ายผลตอบแทนคืนทุกๆ 3 เดือน
ทั้ง 2 กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะพิจารณาความมั่นคงของผู้ออกตราสารเป็นหลัก และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง 100% เครดิตเรตติ้งที่ AA โดยฟิทซ์
นายสมชัย มองว่า ภาวะการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ ยังคงปรับตัวลดลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรในเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลจากการที่ นาย คิม ชุง ซู ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ของเกาหลีใต้ แทนที่นาย ลี ซุง แต โดยตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่าว่าการธนาคารกลางคนใหม่มีแนวโน้มที่จะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป
นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ มีโอกาสถูกรวมเข้ามาอยู่ในการคำนวณ ดัชนี World Government Bond Index (WGBI) ประกอบกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก จากปัญหางบประมาณภาครัฐของยุโรป จึงมีกระแสเงินทุนจากนักลงทุนและนักเก็งกำไรต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้เกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง จึงทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในเกาหลีใต้เมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับลดลง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรไทย ในระดับความเสี่ยงและอายุที่ใกล้เคียงกัน และพันธบัตรเกาหลีใต้ ที่บริษัทลงทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน