นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า วันนี้ คณะกรรมการ ทอท.รับทราบตามที่ ทอท.ได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 — 2559) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี และบรรเทาความแออัดของจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 6 ปี ในวงเงินลงทุนรวม 62,503 ล้านบาท ขณะนี้ ทอท.ได้นำเสนอโครงการดังกล่าวไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอ ครม.ต่อไปแล้ว
ด้านนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่าแหล่งเงินทุน คาดว่าครึ่งหนึ่งจะมาจากกระแสแงินสดของบริษัทซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท ส่วนอีกครั้งหนึ่ง มีแนวทางจัดหา จากการเพิ่มทุน หรือการออกหุ้นกู้ หรือหาเงินกู้ โดยเห็นว่าขณะนี้ เงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น(JICA)เหมาะสมที่สุด
"เวลานี้ การใช้เงินกู้จากไจก้า เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ช่วงแรกๆก็เใช้เงินของตัวเองไปก่อน โครการนี้จะใช้เงินมากในอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อถึงเวลานั้น เงินกู้อาจเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนแนวทางเพิ่มทุนและออกหุ้นกู้เป็นทางเลือก" นายเสรีรัตน์ กล่าว
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย 4 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ประกอบด้วย งานออกแบบและก่อสร้าง อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Midfield Satellite) งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และงานออกแบบและก่อสร้างส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ และระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM) ,
กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร ประกอบด้วย งานออกแบบและก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก งานออกแบบและก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (อาคารจอดรถ 1) , กลุ่มงานระบบสาธารณูปโภค และ งานจ้างที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ (Project Management Consultant : PMC)
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมกาบริษัท ได้อนุมัติว่าจ้างบริษัท CBID consortium ในวงเงินประมาณ 100 ล้านบาท ให้เป็นที่ปรึกษาการบริหารโครงการพัฒนาบริการและภาพลักษณ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยมีระยะเวลาว่าจ้าง 12 เดือน เพราะการปรับปรุงคุณภาพการบริการสู่ความเป็นเลิศ และยกระดับความพึงพอใจของผู้โดยสารในโครงการ AIRPORT SERVICE QUALITY หรือ ASQ ของสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ( ACI) จะมีปัจจัยภายนอกมาประกอบด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อยู่เหนือการควบคุมของทอท. เช่น สายการบิน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ที่ประชุมยังอนุมัติให้ ทอท.ว่าจ้างบริษัท เจ็มมินาย ทรานสปอร์ต แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ให้ติดตั้งสถานีทดสอบเครื่องยนต์อากาศยานภาคพื้นในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยทอท.จะเป็นผู้ลงทุนในวงเงินกว่า 200 ล้านบาท โดยเครื่องดังกล่าวจะช่วยลดเสียงการทดสอบเครื่องยนต์ในเครื่องบินที่เข้ารับการซ่อมบำรุง ซึ่งในการทดสอบเครื่องยนต์จะเกิดเสียงดังมาก โดยคาดว่าจะใช้เวลาติดตั้งประมาณ 1 ปี หลังจากนั้น ทอท.จะเก็บค่าบริการจากสายการบินที่นำเครื่องบินเข้ารับบริการ