IVL พุ่ง 2.79% หลังร่วมทุนซื้อกิจการในอิตาลี โบรกฯมองแข็งแกร่ง-พร้อมเติบโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 25, 2010 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น IVL บวก 2.79% มาอยู่ที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 292.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.13 น. โดยเปิดตลาดที่ 17.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 18.40 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 17.80 บาท

บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL) รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯเช้านี้ว่า บริษัทเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 50 ต่อร้อยละ 50 กับ PCH Holding S.R.L.(PCH) ในยุโรป เพื่อเข้าซื้อกิจการในธุรกิจการผลิต PTA และ PET ที่ประเทศอิตาลี สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow Chemicals และ Petroleum Industries ของประเทศคูเวต ส่วนข้อตกลงและเงื่อนไขอื่นคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค.53

ขณะที่ บล.เอเชียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์แนะ"ซื้อ"หุ้น IVL เพิ่ม Fair value เป็น 25.42 บาท รับโอกาสดีทางธุรกิจ เนื่องจากฐานะการเงินหลัง IPO แข็งแกร่ง และเตรียมพร้อมเพื่อสร้างการเติบโต จัดเป็นหุ้น Growth stock ของกลุ่มปิโตรฯ ที่มีแนวโน้มการเติบโตของ EPS เชิงรุกในระยะ 3 ปีข้างหน้า คาดการณ์กำไรสุทธิปี 52-54 เติบโตในอัตราเฉลี่ยถึง 20.4% ต่อปี

บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเข้าซื้อกิจการในยุโรป 2 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ PET และยังรวมไปถึงกิจการที่สามารถช่วยให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานลงอย่างมีนัยฯ ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะธุรกิจ PET (อาทิ การลดต้นทุนค่าขนส่ง หรือช่วยลดต้นทุนค่าพลังงาน)

บริษัทฯ คาดการณ์การเติบโตของกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกรวมในปี 53 จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านตัน หรือเติบโตถึง 47% yoy ซึ่งมาจาก 1) โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก Alphapet เฟส 2 กำลังการผลิต PET 2 แสนตัน/ปี ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ใน 2Q53 และ 2) การเข้าซื้อกิจการของโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกที่มีกำลังการผลิตราว 2-3 แสนตัน/ปี ซึ่งอาจเป็นการเข้าลงทุนในโรงงานที่ได้ปิดกิจการไปในช่วงที่ผ่านมา หรือการสร้างโรงงานแห่งใหม่ (ในกรณีที่การเข้าซื้อกิจการไม่ได้เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ IVL โดยรวม)

ทั้งนี้ ยังไม่รวมประโยชน์ทางธุรกิจหรือ Synergy ในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิต/ ดำเนินงานรวม ดังกล่าวในข้างต้น สำหรับโอกาสในการเข้าลงทุนในธุรกิจที่ช่วยสนับสนุนการลดต้นทุน

ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานของ IVL ใน 1Q53 จะยังแข็งแกร่งโดยคาดกำไรสุทธิราว 1.47 พันล้านบาท หรือเติบโตราว 7% qoq โดยคาดปริมาณการผลิตจะยังใกล้เคียงกับงวดที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ Spread ที่ยังแข็งแกร่งในระดับที่สูงราว 220-230 เหรียญฯ/ตัน แม้ราคาวัตถุดิบหลักทั้ง PTA และ MEG จะยังอยู่ในระดับสูง แต่ราคาเม็ดพลาสติก PET ยังแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม IVL ยังมีความเสี่ยงสำหรับการลงทุนที่ยังประเด็นที่ต้องติดตามคือคดีความฟ้องร้องที่สหรัฐฯ ในเรื่องการละเมินลิขสิทธิ์ในเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติก PET โดย บ.Eastman ซึ่งในมุมมองของบริษัทฯ ยังค่อนข้างมั่นใจต่อผลของคดีความ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวได้ซื้อจาก บ.Inventa Fischer


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ