EPFR Global ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกองทุนทั่วโลก ได้ให้น้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นตุรกี ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นเม็กซิโก ที่ระดับ “overweight" พร้อมกับระบุว่ากลุ่มอิควิตี้ฟันด์ได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นจีนมากที่สุดในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศอื่นๆทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการควบคุมภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ ข้อมูลของ EPFR Global บ่งชี้ว่า ในบรรดาตลาดหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก ยกเว้น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นนั้น นักลงทุนกลุ่มอิควิตี้ฟันด์ได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นจีนลง 1.13%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนถูกลดชั้นให้เป็นตลาดหุ้นที่มีภาวะการซื้อขายย่ำแย่ที่สุดในเอเชียในปีนี้ หลังจากธนาคารกลางจีนมีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองสภาพคล่องถึง 2 ครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการเก็งกำไรและควบคุมภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ ส่งผลให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนดิ่งลงไปแล้ว 6.7% ในปีนี้
นอกจากนี้ EPFR Global กล่าวว่า กลุ่มกองทุนได้ย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดหุ้นจีนติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 11 ในปีนี้ และได้นำเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชีย โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซียมีเม็ดเงินไหลเข้ามากที่สุดในรอบ 12 ปี