นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซินและดีเซลที่ไม่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทน ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของตลาดที่ลูกค้าส่วนใหญ่หันไปใช้น้ำมันดีเซล B5 จากปัจจุบันที่มีการใช้น้ำมันดีเซล B2 และ แก๊สโซฮอล ที่จะใช้ E20 มากขึ้น จากปัจจุบันใช้แก๊สโซฮอลล์ E10 ส่วน E85 ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการออกแบบรถยนต์รองรับการใช้น้ำมันดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน
"ภายใน 2-3 ปีนี้ คิดว่าเราจะยกเลิกการใช้เบนซินและดีเซล และหันมาขายแก๊สโซฮอลล์ E20 มากขึ้น ส่วนดีเซล คงขาย B5 มากขึ้น ซึ่งสุดท้ายเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า" นายประเสริฐ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีสถานีบริการน้ำมันขายปลีกจำนวนมาก จึงจะทยอยการยกเลิกขายน้ำมันดีเซลและเบนซินที่ไม่มีส่วนผสมของพลังงานทดแทน ซึ่งปัจจุบัน PTT เป็นผู้นำตลาดขายปลีก และมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด
ส่วนน้ำมันเครื่อง PTT เป็นผู้นำตลาด ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด 36% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม และอยู่ระหว่างการเร่งขยายฐานการตลาดสู่ภูมิภาค ประเทศเพื่อนบ้าน และจีน คาดว่าอนาคตสัดส่วนการส่งออกน้ำมันเครื่องจะสูงกว่าขายในประเทศ
และวันนี้ PTT ได้จับมือ บมจ.ปตท.เคมีคอล (PTTCH) ในการผลิตบรรจุภัณฑ์น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก โพลีเอทธิลีน ชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ภายใต้แบรนด์ InnoPlus ซึ่งจะทำให้บรรจุภัณฑ์มีความแข็งแรงทนทาน มีน้ำหนักเบา และช่วยลดปัญหาโลกร้อน สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% และยังรักษาคุณภาพสินค้าถึงผู้บริโภคปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ